พาไปกินร้านดัง ตลาดวังหลัง

ตลาดวังหลัง ชื่อก็บอกชัด ว่าเคยอยู่หลังวังนะจ้ะ เพราะฉะนั้นของเด็ด ของอร่อยเพียบ และเพื่อให้สมกับที่เคยเรียน จิงเกอร์เบลคอนแวน เราต้องเสาะหาของอร่อย มานำเสนออยู่แล้ว

ด้วยความที่เรียนจบมา 19 ปี เฮ้ย…นานไปไหม จะนับตัวเลขให้หมองเศร้าอยู่ไย เลยอยากมารำลึกความหลังที่ตลาดวังหลัง ไม่รู้จะเปลี่ยนไปแค่ไหน ไม่เป็นไรเดินเที่ยวให้ทั่ว ชิมให้ครบ เดี๋ยวก็รู้แหละว่าอะไรอร่อย

หา อะไรนะ ลดความอ้วนอยู่ แหมๆ เว้นไว้วันนึงแล้วกัน หน่า นะ….

ตลาดวังหลัง อยู่ติดกับโรงพยาบาลศิริราช หากมาจากฝั่งพระนคร แนะนำให้ขึ้นเรือที่ท่ามหาราชแล้วนั่งข้ามมา จะสะดวกที่สุดเพราะที่จอดรถแถวนี้หายากมากมาย

ส่วนเด็กฝั่งธนฯ รถเมล์ รถกระป้อ รถสองแถว หรือนั่งเรือ ดูจะสะดวกสบายที่ซู๊ด หรือไม่สะดวกจริงๆ ตรงสี่แยกก่อนเลี้ยวเข้ามาด้านในท่าวังหลัง มีที่จอดรถของเอกชนอยู่ ชั่วโมงแรก 30 บาท ชั่วโมงต่อไป 20 บาท

หรือจะเลือกจอดในวัดอัมรินทร์ ด้านข้างรพ.ปิยะราชมหาการุนย์แบบเหมาๆ 40 บาทก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องไปลุ้นนะจ้ะ ที่จอดรถมีไม่มาก

ใช้เวลาหารีวิว พอลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตลาด สภาพเปลี่ยนไปจากเดิม ตรงที่มีร้านค้าหลากหลายมากขึ้น แต่ยังคงความคึกคักเหมือนเดิม โดยเฉพาะของกิน อยากจะชิมมันทุกร้านทีเดียว

หมวย อดทนไว้ เรามีเป้าหมาย เลือกมา 5 ร้านค้าเด็ดๆ ที่ควรสำรองกระเพาะไปโดนให้หนำใจ

อันดับที่หนึ่ง ยกให้นี่เลย

หมูทอดวังหลัง ความเด็ดดวงอยู่ที่ หมูสันในผ่านการหมักด้วยสูตรเฉพาะ เข้าเนื้อ รสชาตละมุนลิ้น เนื้อหมูนิ่มอร่อยกำลังดี ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ไม่แนะนำให้เดินผ่านร้านนี้ เพราะความอร่อยมันจับมือกับไขมันอย่างแน่นแฟ้น บอกเลยว่ารอดยาก ร้านแรก จัดมาเบาๆ หมูทอดครึ่งกิโล T_T

ร้านที่สอง เป็นร้านยอดนิยม ในขณะนี้ ไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้ นั่นคือ “อรทัยซูชิ” หากใครชื่นชอบ ซูชิตลาดนัดเป็นชีวิตจิตใจ ร้านนี้พลาดไม่ได้อย่างแรง เพราะความใหม่ สด หลากหลายหน้าซูชิให้เลือกสรร แถม ราคา สนับสนุนเงินในกระเป๋าก่อนเงินเดือนออกได้เป็นอย่างดี สนนราคา คำละ 5 บาทเท่านั้น ขอย้ำ 5 บาท อย่าได้รอช้า จัดไปให้ไวเลย

ร้านที่ สาม เหมาะกับการหาอะไรรองท้องเป็นกิจจะ ลักษณะ นั่นคือ เมนูยอดฮิตติดชาร์ตของไทยแลนด์ “ส้มตำ ไก่ย่าง” ขอแนะนำนี่เลย “น้ำตกสีดา” ใครๆ ก็แนะนำ เลยเลือกฝากท้องอาหารกลางวันกับร้านนี้ ไก่ย่างเนื้อนุ่มหนังกรอบนิดๆ รสชาติเบาๆ เสริฟพร้อมส้มตำหลากหลายเมนู ส้มตำไทยกุ้ง ส้มตำปลาดุกฟู ที่ถูกใจและขอยกนิ้วให้ เห็นจะเป็นไส้กรอกอีสานที่มีความมันกำลังดี รสชาติกลมกล่อม ราคาอาหารก็สบายกระเป๋า ราคาเฉลี่ยจานละ 40-50 บาท เท่านั้น หากใครชอบรสชาติ หวานๆ เปรี้ยว เผ็ดนิดๆ แนะนำเลย

หนังท้องตึงได้ที่ แต่ภารกิจ เรายังไม่หมด ต้องไปตบด้วยของหวาน (เอิ่ม…ยังพยาย๊าม พยายามยัดลงไปอีก) ตามทางเดินมีร้านขายเสื้อผ้าของมือสอง มือใหม่ เยอะมาก แต่ก่อนไม่เยอะขนาดนี้ ราคาก็ถูกใช้ได้ ตัวละ 50-200 เฉลี่ยอยู่ที่ 100 กว่าๆ เนื้อผ้าดี สมราคา เสียดายเวลาน้อย คงต้องเผื่อเวลาสักหน่อยสำหรับการช้อปปิ้ง และเตรียมสตางค์ไว้ด้วย ได้ควักแน่นอน การันตี

ถัดมาอีกไม่ไกล ร้านที่ สี่ มาดับกระหายคลายร้อน ด้วยร้านน้ำปั่น จีน่าน้ำปั่น เมนูแปลกใหม่ ไม่เคยเห็นที่ไหน ต้องนี่เลย เอ็ม 150 ปีโป้ ใครหนอ ช่างคิด แต่ตัวพี่นี้ กลัวกินแล้วคึกคัก ไม่ต้องหลับต้องนอนกันล่ะ เลยไม่ได้จัดมา เอาแค่น้ำผลไม้ปั่นเบาๆ        ก่อนแล้วกันน๊า ใครเคยชิม อย่าลืมมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยว่าเป็นยังไง

ที่ขาดไม่ได้เห็นจะเป็น “วังหลัง เบเกอร์รี่” ร้านที่ ห้า ซึ่งนาทีนั้น ยัดเข้าไปในกระเพาะอีกไม่ไหวแว้ววว แต่อย่าคิดว่าจะพลาดนะ ซื้อตุนไว้กินพรุ่งนี้ได้ 555 ตามคำบอกเล่า เค้าว่า ไส้เจ๊ใส่ไม่ยั้ง บิเป็นทะลัก เนื้อขนมปังก็หอมนุ่ม ส่งกลิ่นรัญจวนไปยันหน้าปากซอย  จัดไปค่ะ 3 แถว สามรส เนยสด รสออริจินอล รวมแฮม และลูกเกด เหอๆๆๆ ไม่ได้โลภนะคะ อยากลองเพื่อเอามาบอกเพื่อนๆ ว่าอร่อยจริงหรือเปล่า จริงๆจริ๊งงงง (เสียงสูงมาก)

ของอร่อย ยังมีอีกเพียบ แต่ผู้ชายเริ่มส่งสายตา ประมาณว่าจะซื้อตุนไว้สำหรับสงครามโลกครั้งที่ 3 เหรอ สงสัยต้องมาต่อ ตอนสองซะแล้ว ยังไม่ได้ลอง ขนมถังแตก ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

ตลาดวังหลัง แหล่งรวมของอร่อย

เยอะมว๊าก

#I am traveller

เพื่อของอร่อย พุงจะแตก ก็ต้องอดทน >____< สโลแกนของคนอยากผอม (จริงๆ หรา)