Iluvtravelling

เดินชิลล์ กิ่วแม่ปาน นอน บ้านแม่กลางหลวง

ตอนที่ 2 ของการขึ้นดอยอินทนนท์ เราเดินกิ่วแม่ปานมาได้เกือบ กิโลแล้วน๊า เจอวิวภูเขาหญ้า ทิวเขา ฟ้าใสตรงหน้า ความเหนื่อยหายไปหมดแลย

ตอนแรกอ่านได้ที่นี่ http://www.iluvtravelling.com/กิ่วแม่ปาน/

ทางเดินไม่ได้น่ากลัวเหมือนภาพถ่าย เสียวปานกลางเท่านั้น 55 จุดต่อไปนี่จะเป็นจุดยอดนิยม ที่ต้องรอคิวถ่ายภาพกันเลยทีเดียว เพราะเป็นจุดที่เห็นวิวทิวเขาแบบไม่มีอะไรมาบดบัง จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน

ชานไม้เล็กที่ทอดไปเบื้องหน้า หลายคนทั้งนั่ง ยืน พิง เพื่อเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในเฟรมทิวเขาให้มากที่สุด หากต้องการถ่ายให้วิวสวยดั่งใจ แนะนำให้ช่างภาพยืนบนที่สูงไม่ต้องลงไประเบียงไม้ด้านล่าง ให้นายแบบไปยืนท่าเท่ห์อย่างเดียวพอ

จะบอกว่าจุดนี้อยากให้เพื่อนๆ ใช้ความระมัดระวังนิดนึง หลายคนปีนไปยืนบนเสา น้องคนที่นำทางบอกว่า น็อตบางตัวหลุดไปแล้ว เค้ารอซ่อมอีกทีกลางปีเลย เหอๆ ดังนั้นเอาแค่พอสวยยืนพิงก็เก๋ได้นะจ้ะ อย่าปีนเลย พี่ก็เสียว

รอบเล็กจบที่ตรงนี้ ใครไม่ไหว เดินย้อนกลับทางเก่าได้เลย แต่ถ้าไหว ไปกันต่อสิฮะ

ทางเหมือนจะเดินลงเขา ให้สบายใจ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ต้องขึ้นๆ ลงอีก 2 เฮือกใหญ่ เอาหน่ะ ออกกำลังเนอะ

อยากเป็นผู้พิชิต กิ่วแม่ปาน เราต้องจัดให้ครบรอบ เดินลงไปนิดเดียว มองย้อนกลับขึ้นมาเห็นวิวคนตัวเล็กอยู่ลิบๆ ยืนถ่ายรูป สวยไปอีกแบบ

จุดถ่ายรูป คือ ผาแง่มน้อย เป็นก้อนหินที่เหมือนจะโผล่งอกมาจากหน้าผา รูปทรงแปลกตา แถมบอกว่า มีเลียงผาอาศัยอยู่ โอ้วว…ในชีวิตเคยเห็นแต่ในสวนสัตว์ อยากเห็นของจริงบ้างจัง น้องเล่าว่า เลียงผาชอบความสงบ คนเดินเยอะๆ แบบนี้ไม่ออกมาหรอก แป่ว…สรุป เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจอ

ถัดไปมี “กุหลาบพันปี” ดอกสีแดง แทงยอดมาจากลำต้น หงิกๆ สีดำ น้องที่นำทางเล่าว่า เป็นสายพันธ์เดียวกันกับ กล้วยปลี ที่ขึ้นในป่า ไม่ใช่กุหลาบที่อยู่มาหลายพันปีแต่อย่างใด เอาหน่ะ นางก็สวยดอกใหญ่ ไฮโซอยู่หล่ะ

จากนั้นจะเป็นเนินที่สามารถมองเห็นวิว พระบรมธาตุฯ ตอนหมวยไปเป็นช่วงย้อนแสงพอดี เลยถ่ายไม่งาม หากใครไปช่วงเย็นๆ น่าจะได้แสงสวยๆ กับยอดพระบรมธาตุทั้งสององค์ครบถ้วน มุมนี้ต้องมาเก็บภาพวันหลัง

นอกจากนั้นก็เริ่มเดินเข้าไปในป่า อีกรอบแล้วค่ะ มอสขึ้นเต็มต้นไม้ อากาศชื้นมาก ได้ยินเสียงน้ำตก และเสียงหอบของตัวเองตลอด 555

ก่อนทางออกเจอต้นไม้ใหญ่มาก อยากจะเดินไปกอด น้องบอกว่า เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกิ่วแม่ปานแล้ว เป็นไงล่ะ ตาถึงนะ พี่ต้นไม้ขอกอดหน่อยน๊า

จุดสุดท้าย น้องนำทางเชียร์บอกว่า เหลืออีกแค่ 13 ขั้นเท่านั้น ก็จะถึงปลายทางแล้ว แหมเข้าใจพูด ลองเดินแล้วนับขั้นบันได ก็เป็นจริง ไม่โกหกพี่ หลอกให้พี่เดิน

สิริรวมทำเวลาได้ค่อนข้างดี เสียเวลาถ่ายรูปตรงระเบียงไม้ไปครึ่งชั่วโมง 3 กิโลเมตร 2 ชั่วโมงพอดิบพอดี ได้เหงื่อท่วมท้นมาก แต่สะใจ ชอบสุดๆ ถ้าหิวทางออกมีร้านอาหารให้เติมพลัง ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวต้ม ไข่เจียว น้ำดื่มพร้อม

กิ่วแม่ปาน ต้องไปเดินอีกแน่นอน ประทับใจฝุดๆ สปอยรูปเยอะเลย แต่รับรองว่าของจริงสวยกว่านี้อีก

จุดต่อไป จุดสูงสุดแดนสยาม ดอยอินทนนท์ มาถึงแล้ว ขอไปแตะหน่อยนะ จุดนี้เรียกได้ว่า หนาวที่สุดในประเทศไทยและ เพราะเราอยู่สูงที่สุด หมอกพัดปลิวผ่านหน้าเพิ่มความหนาวเย็นเข้าไปอีก ตอนนี้อุณหภูมิสัก 11 องศา เมื่อสองปีที่แล้วมา 6 องศาจ้า

ยังไม่เคยเจอ เหมยขาบ เลย เป็นเป้าหมายที่ต้องหาให้เจอให้ได้ เดินอีกสักหน่อย รอบๆเล็ก เป็นสะพานไม้ เดินง่ายไม่เหนื่อยมาก จุดนี้ผู้สูงอายุเดินได้นะคะ มีราวให้จับตลอดทาง ไปถ่ายรูปกับป้ายจุดสูงสุดแดนสยามกันหน่อย

นอกจากนั้น สามารถนำดอกไม้มาสักการะ “กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์” ซึ่งเป็นเจ้าหลวงของเมืองเชียงใหม่ องค์ที่ 7 สร้างโดยพระธิดา เจ้าดารารัศมีซึ่งเสด็จมาประพาสที่ดอยอินทนนท์แห่งนี้ เพื่อเคารพและเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตกันหน่อย

ได้เวลา ไปหาของกิน เอ้ย เอาเสื้อผ้าไปเก็บ เข้าที่พัก นั่งชิลล์กันสักหน่อย ที่พักของเราคืนนี้ ไม่ต้องออกจากอุทยานเลยค่ะ เป็นโฮมสเตย์ “บ้านแม่กลางหลวง” ชื่อ “คีรีมายา” มีดียังไง ทำไม๊ ทำไมต้องมานอนที่นี่

มารีวิวตอนหน้าจ้า

#Iamtraveller #กิ่วแม่ปานต้องมาโดนสักครั้งในชีวิต แนะนำ

Exit mobile version