ขึ้นดอยอินทนนท์ ชวนเดินชม กิ่วแม่ปาน

vodka

8 years ago

555 ยังไม่จบนะ ทริปเชียงใหม่ของเค้า รอบนี้ตั้งใจนอกจากจะไปเก็บภาพนางพญาเสือโคร่งที่พร้อมใจกันเบ่งบานช่วงหน้าหนาวแล้ว ตั้งใจจะไปเดินชมวิวที่กิ่วแม่ปานดอยอินทนนท์ด้วย

ใครสนใจ เที่ยวเชียงใหม่แบบ One Day Trip ตามมาเที่ยวด้วยกันค่ะ

ทริปการท่องเที่ยววันนี้เป็นแบบนี้ค่ะ

สนามบิน>>ร้านอาหารมีนา มีข้าว>>กิ่วแม่ปาน>>ดอยอินทนนท์>>จิบกาแฟร้านอิ่มเอิบ>>นอนพักโฮมสเตย์แม่กลางหลวง ลุยยยย

ร้านอาหารมีนา มีข้าว เกิดจากที่เพื่อนโพสรูปอาหารหน้าตาดี พร้อมคำชมอีกพะเรอบนเฟสบุ๊ค เห็นรูปสวยมาก แปลกดี เลยอยากมาลอง

ดูแผนที่แล้ว ออกนอกเส้นทางนิดหน่อย มาทางสันกำแพง แต่ไม่ไกลมาก จากสนามบินใช้เวลา 25 นาที ประมาณ 14 กิโลเมตร เลยจัดก่อนเลย พิมพ์ใน Google Map ว่า “ร้านอาหารมีนา Meena Rice Based Cuisine”

ร้านค่อนข้างอยู่ในซอยลึก ต้องอาศัย Google Map อย่างเดียวเลย ร้านเป็นเรือนไม้ ชอบการตกแต่งของร้านนี้มากกกกก ก.ไก่หลายตัว

อาหารเหมือนมีสไตลิส คิดมาแล้วอย่างดี จัดสวยทุกจานเลย ที่ปลื้มคงไม่พ้นข้าวหลากสี ที่เราเลือกสีและประเภทของสายพันธ์ข้าวได้ หมวยเลือกข้าวลายธงชาติ อาหารสวยทำให้มีความอยากอาหารมากกว่าเดิมหลายเท่านัก ถึงแม้ปกติก็หิวง่ายอยู่แล้ว 555 พูดฆ่าตัวเองทำไม

ทุกสิ่งที่คัดสรร เป็นวัตถุดิบออแกนิค ทานได้ทุกอย่างเลย ดีกับสุขภาพด้วย

จานโปรดของหมวยเป็นลาบเต้าหู้ค่ะ ชื่อเหมือนจะยี้ แต่รสชาติเหมือนลาบไก่เป๊ะๆ อร่อยแท้ แถมดีต่อสุขภาพด้วย

น้ำเราก็ต้องกินแบบไม่ธรรมดา น้ำข้าวกล้องปั่นใส่นมจ้า หวานๆมันๆดี น้ำเปล่าเป็นเหยือกมาเสริฟฟรีน๊า มีใส่มะนาวฝานมาด้วย ดื่มแล้วสดชื่นๆ

อยากจะจิ๊กผ้าปูโต๊ะซะเหลือเกิน เป็นผ้ามัดย้อมคราม ลายส๊วย สวย

ไม่พอจ้า เค้กอีก 2 ชิ้น มะพร้าวน้ำหอม และ เค้กต้นไม้

555 กระเพาะเราขยายเมื่อมาเที่ยวเสมอ อิ่มพุงอารมณ์ดีฝุดๆ พร้อมไปย่อยอาหารต่อที่กิ่วแม่ปานกัน

ขับรถยิงยาวขึ้นดอยอินทนนท์ ระยะทางจากร้านอาหารถึงดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติ 106 กิโล ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ค่าเข้าคนละ 40 บาท ค่ารถ 40 บาทก๊าบ (เดานะ 55 เพราะไปกัน 2 คน รถยนต์หนึ่งคันคิด 120 บาท)

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดทำการเวลา 6.00 – 17.00 น. หลายคนเลือกที่จะนอนแม่กลางหลวง เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้น บริเวณที่จอดรถกิ่วแม่ปานค่ะ

กิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่ในภายในดอยอินทนนท์ ขับรถเลย พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีย์ดล-นภพลภูมิสิริ (หากใครยังไม่เคยมา แนะนำให้แวะเที่ยวที่นี่ก่อนนะคะ แต่อาจต้องเผื่อเวลามากกว่าเดิมสัก 1 ชั่วโมง)

เราสามารถจอดรถทางขึ้นกิ่วแม่ปานได้เลย ที่นี่เราจะใช้เวลาในการเดิน 2 -3 ชั่วโมงแบบครบรอบ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย และเวลาในการเก็บภาพตามจุดต่างๆ ระยะทางการเดิน ประมาณ 3 กิโลเมตรค่ะ

รับรองความคุ้มค่า จุดทางเดิน กิ่วแม่ปาน เปิดให้เข้าชมเวลา 8.30 – 16.00 น. โดยจะเสียค่าบำรุง กรุ๊ปละ 200 บาท กลุ่มละไม่เกิน 6-8 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านในระแวกนั้น

สำหรับผู้สูงอายุ และเป็นโรคหัวใจ ต้องสำรวจตัวเองว่าไหวหรือเปล่านะคะ เพราะการขึ้น ค่อนข้างชันและใช้แรงพอสมควร หากใครคิดว่าไหว ไปต่อค่ะ รอบเล็ก คือ เดินไปจนถึงจุดถ่ายรูป ระยะทางประมาณ 1 กิโล เลยจากนั้น 2 กิโลสุดท้าย ก็วัดใจกันเลย ><

ตลอดระยะทาง จะมีป้ายอธิบาย ป่าบริเวณนั้น มีทั้งหมด 21 ป้าย เป็นกุศโลบายให้เราแอบพักแบบเนียนๆ 555 พอให้หายหอบแล้วเดินต่อ ป่าภายในกิ่วแม่ปาน เป็นป่าร้อนชื้น ไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้ออ่อน จึงไม่ต้องกลัวที่จะถูกตัด

เพียงแต่ต้องระวังเรื่อง ไฟป่า เท่านั้น โดยค่าบำรุงที่เราจ่ายไปเพื่อนำไปซื้อไม้เนื้อแข็งมาซ่อมบำรุงสะพานข้ามต่างๆ และทางเดิน

ในเดือนมิย. จะมีการปิดปรับปรุง ส่วนหนึ่งคือ ปรับปรุงทางเดิน ฟื้นฟูป่า และ ทำแนวกันไฟ จากน้องๆที่พาเราเดินเนี่ยแหละค่ะ

จุดที่สอง เป็นน้ำตก ซึ่งตาน้ำมาจากป่าด้านในไหลรวมจนเป็นน้ำตก ขนาดใหญ่มากขึ้นอย่างที่เห็น

เดินผ่านไป หลายจุดแล้ว ตรงจุดนี้ลมเย็นพัดผ่าน หนาวขึ้นมาเลย น้องที่นำทางบอกว่า ตรงนี้เป็นช่องลม ต้นไม้แหวกเป็นทางเลย ลมพัดผ่านช่องนี้อุณหภูมิลดฮวบไป 1-2 องศา แปลกดีจัง

นอกจากป่าชื้นๆ ที่ทำให้เราไม่ร้อนเกินไปเวลาใช้แรงในการเดินมากๆ อย่างนี้ เฟิร์นก็ดูจะชอบอากาศอย่างนี้มาก เห็นทั่วป่าเลย ซึ่งเฟริ์นเป็นเฟิร์นยุคโบราณ เก่าแก่ถึง 230 ล้านปีมาแล้ว โอ้วนานมว๊าก

ป่าที่นี่ขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยต้นไม่ใหญ่ เมื่อดูดน้ำไปมาก ก็จะบวมน้ำ ผุพังต้นไม้ใหม่ขนาดเล็กก็ขึ้นมาแทนที่ เรียกว่า ป่าซ่อมป่า

เดินไปสักพัก เป็นจุดที่หมวยชื่นชอบมากที่สุด ป่าหญ้า เป็นเฟิร์นและต้นกูด ซึ่งเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆ เห็นทิวเขาน้อยใหญ่สลับกันไป ท้องฟ้าสีคราม มองเห็นคนตัวเล็กๆ เดินเป็นแนวตามทางเดินอยู่ไกลๆ