ว้อดก้าพาเที่ยววันที่สอง หม่อมแม่อยากจะพาเที่ยวที่แปลกๆ เท่ห์ สวยๆ ในตัวเมืองและระแวกใกล้เคียง แต่เมื่อคืนแม่บ่นอุบว่าไม่ได้นอนเลย ก็ผม alert นี่ฮะ ตื่นมาเฝ้ายามตอนตี 4 เอ๊ง ไม่เช้าสักหน่อย
เช้านี้แม่เลยบอกว่า จะจัดเต็ม พาผมออกกำลังกาย อ้อลืมบอกไปว่า เราพักกันที่ “ดิไอริส รีสอร์ท” ค่าห้องคืนละ 1,800 บาท ค่าตัวกระผม300 บาทเหมาๆ 2 คืนเห็นเพื่อนแนะนำ บอกว่าห้องพักเป็นบังกะโลหลังๆ ติดทะเล อืม … ห้องพักสะอาด ติดทะเล ได้ยินเสียงคลื่นซัดสาดจริงฮะ ผมนี่เลือกนอนมุมที่แอร์ตกเลยฮะ ฮี่ๆ สบาย
ไหนก็ได้ที่พักติดทะเล จะไม่เล่นน้ำตอนเช้าก็กระไร แหม จะให้เล่นตอนอื่นก็กลัวผิวจะเสีย ไป แม่ … ว้อดก้าอยากดื่มด่ำ กับน้ำทะล แล้วฮะแม่
ออกมาที่หน้าระเบียง เดิน งงๆ หาทางลงไม่เจอ คือ โรงแรมติดทะเล แต่ไม่มีบันไดลงทะเล ง้อววว แม่คร่ำครวญใหญ่ ฉันผิดเองที่ไม่ได้ถาม ว่ามีบันไดไหม?? หึๆ อย่าคิดว่าแม่ผมจะยอมแพ้ ปีนลงที่ดินเปล่าข้างๆ ลงทะเลไปจนได้ วู้…ไปเล่นน้ำทะเลกัน
วิ่งไปได้ 6 ก้าวถ้วน พลั่ก แม่ขาติด เอาขาไม่ขึ้น เฮ้ย…ต้องถอดรองเท้าเลยอ่ะ รองเท้าจม แม่ฮะ เอิ่ม นี่มัน “ดอนหอยหลอด” หรือ “ทะเลเมืองจันทร์” กันแน่ฮะแม่ (เที่ยวปลายเดือนกรกฏาคม)
แม่ยังพยายามพาผมเดินย่ำเลน เพื่อไปสัมผัสน้ำทะเลให้ได้ แต่แม่ ขาผมจมมิดแล้วฮะ นี่เลนเลอะปิ๊กกาจู๊ผมหมดแล้วฮะแม่ เราผ่าน ทะเลไปเลยก็ได้นะฮะ ว้อดว่า
แม่พยักหน้าหงึกหงัก หลังจากพยายามเอารองเท้าเขี่ยขี้เลน เพื่อให้พอใส่ได้ แม่บอกว่า งั้นเราวิ่งเลียบชายหาดก็แล้วกันนะลูกนะ ผมเห็นดีงามด้วย วิ่งกันพอลิ้นห้อย แม่ก็พาผมไปอาบน้ำ ขัดถูกกันอยู่นานเชียวกว่าจะสะอาดสมใจแม่เค้าหล่ะ
พ่อบอกว่า ก่อนไปแวะกินข้าวที่นี่ก่อนเลย ร้าน “บ้านตาซีฟู้ด” เป็นร้านที่ใกล้ๆที่พัก ร้านนี้มีน้องหมาเจ้าถิ่นตัวใหญ่ทีเดียว แต่ผมใช้ความสามารถหลบหลีกมาได้ 55 ผมโม้ เจ้าของเค้าช่วยดูให้
ที่นี่บรรยากาศดี ติดริมทะเล และหมู่บ้านเรือประมง อาหารก็อร่อย แม่แบ่งออเดิฟทะเลรวมให้กิน โอ้โห ผมได้ชิมทั้งกุ้ง หอย กั้ง ปู ฟินเลยยย เลียจนหมดจาน ทำตาแบ้วขอเติมอีก แม่บอกว่าไม่ได้ กินอาหารทะเลได้นิดหน่อยเท่านั้น แหม แม่ นานๆทีหน่ะนะ
อาหารรสเด็ดของที่นี่ นอกจากเมนูแรกแล้ว เห็นจะเป็นต้มส้มปลากระบอก แม่บอกว่าปลาสด หวานอร่อย รสชาติก็เข้มข้น จิ๊ดจ๊าด กินแล้วแสบไปยันลำไส้ ใครที่ชอบรสจัดต้องจานนี้เลย ทอดมันปลากรายอันนี้แม่แบ่งให้ชิมนิดนึง เหนียวนุ่มดีจัง ผมนี่หลงรักอาหารทะเลแล้วสิ ราคาอาหารรวมน้ำ ไม่แรงอีกแล้ว แม่รู้สึกจะชื่นชมเป็นพิเศษ ไม่เกิน 650 บาท
ท้องอิ่ม แล้วเรามาต่อกันด้วย โบสถ์เมืองจันทบุรี จากร้านอาหารแถวหาดเจ้าหลาว นั่งรถไปอีก 40 นาที แหมลงตัว กินอิ่มแล้วนอนแช่แอร์ในรถ หุๆ
ตอนแรกก็หายากหน่อย เพราะไม่รู้ว่าที่นี่เค้าเรียกว่า โบสถ์คาทอลิค แต่ชื่ออย่างเป็นทางการคือ “โบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล” ผมก็ไม่รู้หรอกฮะว่าประวัติความเป็นมายังไง แต่ผมว่ามันใหญ่โตอลังการ ตึกเป็นสีเทา และมีรูปปั้นผู้หญิงสวยๆ ดูใจดียืนอยู่รอบน้ำพุ
ผมนี่ร้อนมากจะเดินไปชิมน้ำ กะเล่นน้ำในบ่อด้านหน้า คุณพี่ใจดีคงอนุญาติอยู่หรอก พ่อผมร้องโวยวายไม่ได้ๆ แหมแค่นี้ก็งกด้วย งั้นไปเอาน้ำในรถมาให้กินเลย ไม่งั้นงอน ไม่ให้ถ่ายรูปด้วยนะจะบอกให้
นั่นแหละฮะ ไอติมสักแท่ง เจ๋งไปเลย งั้นเราไปถ่ายรูปกัน ด้านนอกเป็นลานกว้างให้แอ็คท่าถ่ายรูปได้ตามสะดวกเลย อ่ะ แม่ จัดไปเลย เอาที่สบายใจ ถือเป็นสินบนไอติมก็แล้วกัน ด้านในวันนี้ผมอดเข้านะฮะ เพราะปิด
ข้ามสะพานนิรมล สองข้างทางเป็นเรือนไม้ริมน้ำ มองแล้วสดชื่นเจริญตามาก มีลมโชยอ่อนๆ เดินตรงไปสุดสะพานเห็นป้าย ชุมชนริมแม่น้ำจันทบูรณ์ แหมน่าเที่ยวมากเลยฮะ มองกลับไปเป็นสะพานทอดผ่านแม่น้ำ ไปสู่โบสถ์ เห็นเงาทอดลงแม่น้ำ โอ้ย แม่อยากจะอยู่ที่นี่นานๆ อาหารก็อร่อย อากาศก็ดี๊ดี
งั้นเราเดินไปเที่ยวชุมชนริมน้ำกันนะฮะ บอกแม่ยังไม่ทันจบประโยคพี่เจ้าถิ่น ตะโกนขู่กรรโชกมาอย่างดัง พ่อก๊าบบ ช่วยว้อดด้วย ดูท่าจะไม่ดี เก็บภาพแค่กำแพงนี่ก็พอแล้วเดินกลับไปข้ามสะพาน เจอเพื่อนๆ น้องหมามาเที่ยวด้วยแหละ ไฮ! เราว้อดก้าน๊า เราอ่ะ friendly ที่สุดของที่สุด อ้าวเพื่อน ไม่สนใจเราเลยอ่ะ
เย้ย เราไปก่อนนะ พี่เจ้าถิ่นส่งเสียงมาอีกและ
พ่อว่าพรุ่งนี้จะพาผมไปดูเรือรบประแส ไม่ไกลจากจันทบุรีมากนัก เพื่อนๆตามไปเที่ยวด้วยกันนะฮะ
# I am traveller
ว้อดก้า พาเที่ยว