Iluvtravelling

Iamtraveller พาเที่ยว “แม่กำปอง”

ถึงเวลาพาไปแว๊นขึ้นเขา ลงห้วย บุกน้ำตก ปีนต้นไม้ ที่แม่กำปองกันแล้ว มาไปเที่ยวกัน

เริ่มต้นทริปง่ายตอนเช้า หลังจากเสพอาหารไปเต็มพุง สถานที่แรกที่หลายคนมุ่งหน้าไปคือ

ร้านกาแฟชมนกชมไม้ ทำไมต้องไปร้านนี้ โอ้ย… มันเป็น ซิคเนเจอร์ของแม่กำปองเลย ไม่ไปเหมือนไม่ได้มาแม่กำปอง อยู่เลยวัดมานิดเดียว ใครใคร่เดิน เดิน ใครใคร่ขับรถ ขับ แค่หวาดเสียวหน่อยตรงทางขึ้นที่จอดรถ เพราะชันขั้นเทพ

แถมยังต้องจ่ายส่วยก่อนเข้าร้านอีก 555

ร้านเป็นอาคารไม้ยื่นไปเป็นระเบียงเหนือทิวไม้ ที่สำคัญวิวที่เห็นตรงหน้า คือ หมู่บ้านแม่กำปองท่ามกลางแมกไม้ตรงหน้า วิวเค้าชนะเลิศจริง hot seat คงหนีไม่พ้น ที่นั่งริมระเบียง

แต่หมวยเลือกนั่งด้านในเพื่อที่จะเก็บบรรยากาศมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ ที่นี่กาแฟรสชาติโอเค เค้กอร่อยปานกลาง ราคาเท่าเมืองกรุง หุหุ

นั่งเล่น ไปสักพักเริ่มไม่ไหว คนคับคั่งมาก บอกแล้วว่าเป็นแลนด์มาร์ก หมวยเลือกเก็บภาพในความทรงจำ สูดอากาศบริสุทธิ์ฟอดใหญ่ แล้วไปเที่ยวอีกที่ค่ะ

น้ำตกแม่กำปอง เป็นน้ำตกสูง 7 ชั้น กะว่าจะพิชิตให้ครบเลย ขับเลยจากร้านชมนกชมไม้ ไม่ไกล แต่ถ้าเดินก็เหนื่อยอ่ะ เพราะทางชันอยู่ คนไม่ค่อยมาก อาจจะเป็นเพราะน้ำไม่ได้ไหลแรง เนื่องจากด้านบนนี้เป็นตาน้ำค่ะ

ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำ และน้ำปะปาภูเขาที่ใช้ในหมู่บ้าน จอดรถไว้ด้านนอก พกแค่กล้องแล้วไปเที่ยวกันค่ะ

ทางเดินสะดวก เป็นขั้นบันได ให้พอได้ออกแรง ชั้นแรก ชาวบ้านทำเป็นฝายชลอน้ำ ทำให้น้ำเป็นชั้นๆ ให้เราได้พอปีนป่ายไปถ่ายรูป ใครที่มากับผู้สูงอายุ ชั้นแรก ยืนถ่ายรูปสวยๆ ได้เพียบเลยค่ะ

ใครพอมีแรงแนะนำให้เดินขึ้นไป ไหนๆ ก็มาแล้ว ขึ้นมาชั้นที่สอง เห็นสายน้ำตกไหลมาจากในป่า ทางเดินปิดห้ามเข้า เสียดายจัง ชั้นที่สองนี้มีศาลา ฝรั่งหลายคน ถือขนมปังมาปิคนิคนั่งชิลล์ ริมน้ำตกกันด้วย

เราเก็บภาพพอประมาณ ไปถ่ายรูปต่อด้านล่างดีกว่า

แหมๆ ไหนๆ ก็มาแล้ว ขอเอาเท้าจุ่มน้ำหน่อยนะ โอ้ยๆๆๆๆๆ เย็นอย่างกับน้ำในช่องฟรีซ แช่ไปสักพัก เท้าเริ่มแดงและชา (ช่วงที่หมวยไป อากาศเย็น 17-18 องศา) ไม่พอ เอามือจุ่มด้วย จะได้เท่าเทียม 555 โรคจิตเนอะ

ตรงแอ่งน้ำเล็กๆ เป็นพื้นทรายค่ะ ยืนได้มั่นก็อย่างว่าเนอะ ว่างอ่ะ ขอกระโดดสักหน่อย ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง

กระโดดกันไปเป็นสิบ สนุกมากเลย ไม่มีเหงื่อ อากาศดี ช๊อบชอบ

ออกมาจากที่จอด เห็นน้องหมา เลยเรียกมารับส่วนตามระเบียบ น้องหมาที่นี่น่ารักมากทุกตัวเลย จกขนมแบบสุภาพ ไม่โดนมือเราเลยนะคะ (ไม่ตะกละเหมือนพี่ว้อด (หมาบูลที่เลี้ยงไว้) รายนั้น งับขนมพร้อมอมมือแม่เข้าไปด้วย) ใครแวะมาเที่ยว อย่าลืมติดขนมมาส่งส่วนตามรายทางกันน๊า

ใกล้จะเที่ยงแล้ว มี 2 แผน ระหว่างไปทานข้าวที่โครงการหลวงตีนตก หรือ The Giant

ตกลงกันที่ The Giant ร้านกาแฟสุดชิค ที่มีห้องพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เพียง 5 ห้อง เต็มทั้งปี OMG!! พยายามจองเหมือนกัน แต่ไม่สามารถอ่ะ ป่ะ ไปดูกันว่าต้นไม้จะใหญ่ อลังการ และ Unseen ขนาดไหน

ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ถึงแม้ระยะทางจะไม่ไกล จากแยกเข้าบ้านแม่กำปอง เบี่ยงซ้ายไปตามป้าย The Giant แค่ 7 กิโล แต่ทางขึ้นเขาและค่อนข้างแคบค่ะ ต้องขับระวังรถสวนสักหน่อย กำลังเครื่องยนต์ก็ต้องพร้อมด้วยน๊า

คนบางส่วนที่มาเที่ยวที่นี่ น่าคุ้นๆ เพราะเจอกันที่ร้านกาแฟชมนกชมไม้ 555 มีหลายคนที่แวะมาเที่ยวแม่กำปองแบบ ไป-กลับเนื่องจากใกล้ตัวเมือง ร้าน The Giant ลงจากรถมาแว้ปแรก เฮ้ย เท่ห์อ่ะ ต้องเดินข้ามสะพาน เข้าไปที่ร้านกาแฟด้วย

สะพานนี้รับน้ำหนัก ได้ทีละ 2 คนเท่านั้น ดังนั้น เราก็ต้องใจเย็นๆ ต่อคิวข้ามกันนะเคอะ

วิวถ่ายรูปที่สวยที่สุด คือ จุดตรงกลางที่ข้ามสะพานเนี่ยแหละค่ะ รอแดดส่อง กดชัตเตอร์รัวๆ สวยมาก

ด้านบนของต้นไม้ เป็นลานไม้ไม่ใหญ่มาก ตั้งโต๊ะได้สัก 15 โต๊ะ อาหารที่นี่เป็นแบบง่ายมั่กๆ สปาเก็ตตี้ ไส้กรอกรวม รสชาติ…อืม ธรรมดาอ่ะ ราคาแอบแรง จานละ 159 บาท สั่งสปาเก็ตตี้ 2 จาน ไส้กรอกรวม น้ำเปล่า 1 ขวด ราคา 503 บาท ไม่เป็นไร ให้ค่าวิวและกัน

ด้านข้างของร้านมีให้โหนสลิง สามารถเลือกได้ว่า จะไปอย่างเดียว หรือ ไปกลับ ราคา ไปกลับอยู่ที่ 200 บาทขาดตัว นั่งชิลล์สักพัก พอแดดร่ม ไปต่อค่ะ

ทางผ่านมี ถ้ำผาลอด คือเป็นถ้ำที่มีน้ำลอด ทางผ่าน มัวแต่ลุ้นเวลาลงเขา ไม่ได้มองป้ายไรเล้ยย ป้าแก่แล้ว ป้าเสียวอ่ะ 555

สถานีถัดไปโครงการหลวงตีนตก จากแยกทางเข้าบ้านแม่กำปอง เลยไปไม่เกิน 5 นาที ถ้ามาจากตัวเมืองเชียงใหม่ จะผ่านก่อนค่ะ ที่นี่มีที่พักด้วย แต่ดูแววจะเต็ม ห้องพักราคาประมาณ 1,600 บาท หน้าตาดีเชียว

ร้านอาหารก็ดูมีชาติตระกูล พลาดแว้ว ตอนนี้พุงแน่นมาก ได้แต่ถ่ายรูปบรรยากาศมา ด้านในมีลำธารไหลผ่าน ด้านหลังเป็นห้องพัก ไล่เลียงไปตามเนินหญ้า สวยอ่าาา

สวนด้านนอก มีที่เพาะกล้วยไม้ โรงงานกาแฟให้เข้าชมได้นะคะ เผอิญวันที่เค้าไปมันปิด TT_TT โอ๋ๆๆ หมวยไ่ม่เป็นไร ไว้มาใหม่นะ

ร้านค้าโครงการหลวงมีผลิตภัณฑ์พอให้ช้อปเล็กน้อยค่ะ ผ้าพันคออโรม่าน่าสนใจเชียวตาลุกวาว แต่คนข้างๆ ส่งกระแสจิตบางอย่างมา เลยต้องยั้งมือไว้ก่อน

4 โมงเย็นแล้ว กลับมาถึงหมู่บ้านแม่กำปอง ร้านสุดท้ายที่จะแนะนำในทริปนี้คือ ร้านกาแฟฮิมห้วย ลุงปุ๊ดป้าเป็ง ถือเป็นแลนด์มาร์ค ของแม่กำปองอีกเช่นเดียวกัน ฟังครั้งแรก ออกเสียงยากมาก ทวนตั้งนานกว่าจะออกเสียงถูก

นอกจากควรอย่างยิ่งที่จะต้องถ่ายรูปกับหน้าร้านแล้ว ในร้านมุมที่ไม่ควรพลาดคือ หลังร้านค่ะ มีที่นั่ง เป็นเคาน์เตอร์ วิวเป็นลำธารและบ้านไม้ ให้ความรู้สึกเดียวกับที่ไปเที่ยวลี่เจียงเลย (จริงๆนะ สัญญาว่าจะเร่งมือ รีวิวเร็ววันนี้)

พุงก็แน่นแล้ว แต่แบบ เค้กก็ต้องจัดหน่อยอ่ะเนอะ เดี๋ยวจะบอกไม่ได้ว่าอร่อยหรือเปล่า ร้านนี้มีอาหารคาวด้วยนะจ้ะ ร้านเปิด 9 โมงถึงประมาณ 5 โมงเย็น กาแฟและเค้กอร่อย โกโก้ร้อน 1 เค้ก 1 กาแฟ 1 ประมาณ 200 กว่าบาท

วันหลังต้องมาลอง อาหารคาวด้วย เห็นคนสั่งกัน น่ากินเชียว มีสั่ง ชาเป็นกา ดื่มเวลาอากาศเริ่มเย็นนี้ น่าจะฟินนะ ชอบๆ แนะนำ

ของหวานผ่านไป หิวของคาว กลับไปกินข้าวบ้านแม่ซอล โฮมสเตย์กันต่อ ถือเป็นอันปิดทริปวันนี้ รีบกิน รีบอาบน้ำ นอนฮ่ะ

อากาศหนาว เย็นมาก บรื๋ยยย

สถานที่ท่องเที่ยวในแม่กำปองยังไม่หมด ตอนหน้ามาต่อกันนะฮะ

#Iamtraveller

Exit mobile version