Iluvtravelling

สามพันโบก กับแจกันปริศนา

จากเมื่อวาน สมาชิกในแกงค์ ที่อายุอานามมากที่สุด เกินเลขสี่มาเกินครึ่ง ร่างกายอ่อนเปลี้ย คิดว่าวันนี้คุณพี่จะตื่นมาเที่ยวไม่ไหว สุดท้ายพาราที่อาบเข้าไปแผลงฤทธิ์ ขอปรบมือให้คุณพี่ด้วยจ้า

เพียงเราปรับเวลาแผนเดิมคือไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สามพันโบก เป็น ให้พระอาทิตย์ขึ้นไปก่อนเลย เราค่อยตามไปชมทีหลัง 555

ง่ายๆ เลยคือกลัวรถที่เช่ามาถูกสอยอีก เพราะไม่เคยชินเส้นทาง ตามที่รีสอร์ทแนะนำให้วิ่งไปตามถนนใหญ่เลี้ยวซ้ายตามป้ายสามพันโบก ขับเข้าไปสักพักนึง จะเจอทางลูกรัก 1.5 กิโล เขียนว่า ทางลัดสามพันโบก ทางนี้จะใกล้สามพันโบกมาก เดินไม่ไกล เป็นจริงดังพี่เค้าว่า

เราออกจากที่พัก 6.30 น. มาถึงสามพันโบก ก่อน 7 โมงนิดหน่อย เดินลงไปตามทางเดิน เห็นเรือจอดอยู่ลิบๆ  ปรากฏว่าลุงแกมาจับปลา เห็นแล้วหิวเลย ได้ปลาเนื้ออ่อนมากินด้วย

เรือรับจ้างราคาเท่ากันทุกลำเป็นของชาวบ้านหมู่บ้านแถวนี้ ล่องจากจุดที่หมวยขึ้น ราคาอยู่ที่ 500 บาท เหมาลำ นั่งได้ประมาณ 7-10 คน หากล่องจากหาดสลึงราคา 1,000 บาทเพราะระยะทางไกลกว่าและขากลับต้องทวนน้ำ

จัดที่นั่งกันเรียบร้อยลุงแกก็พามาที่จุดแรก เป็นจุดที่เจอหินสีประหลาด ตัวเปลือกด้านนอกเป็นสีดำ เมื่อมีรอยกระเทาะเป็นสีส้มแสด ลักษณะลื่นไม่คม นั่งสบาย

ตามประวัติ ลูกพญานาคถูกมอบหมายให้มาขุดลำน้ำโขง ส่วนตัวแม่พญานาคขุดอีกฝั่งเพื่อต้องการให้มาบรรจบกัน แต่ปรากฏว่าลูกพญานาคเมื่อขุดไปสักพัก พบทองคำ เกิดความโลภเลยขนทองคำมากองไว้ที่กลางแม่น้ำ จึงเป็นที่มาของก้อนหินเหล่านี้ ึ่งถือเป็นทองคำพญานาค นั่นเอง

พี่คนเรือบอกว่า อย่าเก็บก้อนหินกลับบ้าน ไม่เช่นนั้นต้องนำมาคืนที่เดิมนะจ้ะ ถึงแม้มันจะเป็นกุศโลบายให้คนกลัว แต่หมวยว่าดีนะ จะได้เหลือหินสวยๆ ไว้ให้คนข้างหลังได้ชื่นชมบ้าง

จุดนี้ มีแจกันนำโชค ซึ่งเค้าเชื่อกันว่า หากได้ลูบไล้ขอพรแล้วล่ะก็จะเป็นจริงดังหวัง แถมบอกเราว่าเคยมีคนถูกล็อตเตอรี่ 20 ล้านด้วยนะ หูยยย…ประวัติแจ่มซะขนาดนี้ ต้องไปลูบๆคลำๆ สักหน่อยล่ะ ที่สำคัญ ตกใจมากคือ แจกัน เหมือนมากซะจนคิดว่าใครเอาแจกันมาฝังในหินอย่างนั้นแหละ

ถัดมาอีกจุดคือ จรเข้ ที่รอชบาแก้วอย่างเราไปพิชิต 555 ดีนะเป็นหิน บ่นว่าหนักไม่ได้ ก๊ากๆๆ

ต้นหว้า อายุเป็นร้อยปีเลย

เราข่มกันด้วย สีเสื้อเจ็บๆ ตัดกับหมู่ก้อนหิน แดดเริ่มออกพอให้ภาพท้องฟ้าสีเข้มบ้างแล้ว

ต่อจากจุดนี้พี่คนเรือพาเราวกเรือกลับไปที่กองหินทรายกลางแม่น้ำ บอกว่าเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง ฟ้าจรดทราย เออเนอะ คนหาโลเกชั่นก็ช่างคิดนะ ไม่รอช้า จัดท่ากระโดดให้สาสมกัน

พี่คนเรือชวนเราวกเรือกลับไปจุดที่เป็น highlight คือ “สามพันโบก” แกบอกว่าจะพาไปดูมิกกี้เมาส์ เต่ายักษ์ และ หัวใจสองดวง แล้วแยกย้ายเพราะแกหิวข้าวแล้ว 55

ขึ้นเรือมาได้เท่านั้นแหละ ร้องว้าว เฮ้ยนั่น เต่ายักษ์จริงๆ ด้วย แล้วแก่งหินที่มีน้ำสะท้อนสีฟ้าของท้องฟ้า ตัดกับหินสีน้ำตาลอ่อน นี่มันเจ๋งไปเลยอ่ะ ฉันไปอยู่ไหนมานะเนี่ย แกรนแคนยอนเมืองไทยชัดๆ สวยโฮก

หมวยปีนไปก้อนโน้น หินก้อนนี้ สนุกสนานมาก อ้อ ลืมบอกว่ามีน้องหมาขาสั้นตามจากที่จอดรถ เป็นไกด์มารอเราตั้งแต่ลงเรือ พอขึ้นเรือมาที่สามพันโบก ก็มาเดินตามเที่ยวด้วยกัน >< น่ารักมากเลย

นอกจากแอ่งน้ำรูปมิคกี้เม้าส์ ช่างมุ้งมิ้งเหลือเกิน ยังมีหลุมรูปหัวใจ สำหรับคนสองใจ และหัวใจดวงเดียวสำหรับคนไร้คู่ 555 คนก็ช่างคิดเนอะ นอกจากนี้ยังมีแอ่งใหญ่ ชื่อ สระมรกต น้ำใสมาก เห็นอย่างนี้ ลึกถึง 4 เมตรนะจ้ะ

เดินลึกเข้าไปด้านใน เห็นก้อนหินเป็นรูปหัวหมา เฮ้ยเหมือนมาก เดินลงไปลำบากน่าดู เลยให้พี่ผู้ชายนำไปก่อน เห็นเค้าถ่ายออกมาสวยมากกกกก

อยากได้บ้าง เลยปีนกระดึ้บๆ ๆ และให้คุณพี่อีกคนถ่ายให้ เสียวก็เสียว อยากได้รูปก็อยากได้ มันต้องเป็น highlight แน่ๆ แต่ปรากฏว่า พี่เค้ามองเห็นหัวน้องหมาอีกฝั่ง เลยcrop ภาพเรา ไม่เต็มทั้งหัวหมาอ่า เสียใจสุดๆๆๆๆ

นั่งเศร้าอยู่แป๊ปนึง ก็ต้องตัดใจเพราะ เดินย้อนไปอีกจะเสียเวลาคนอื่น ได้เวลาปีนป่ายก้อนหินไปหาอาหารเช้าที่พักแล้ว ส่วนลุงคนเรือหน่ะเหรอ กลับไปกินข้าวบ้านตั้งแต่พาชมสระมรกตแล้วล่ะ

สามพันโบก เป็นอะไรที่ ประทับใจ สวยงามกว่าที่จินตนาการไว้เยอะมากๆ แนะนำให้มาเที่ยวตอนเช้าตรู่ มาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ หรือมีแรง จะไปให้ถึงผาวัดใจก็ได้ หากไม่สะดวก จะมาช่วงเย็นก็สวยไปอีกแบบ

เป็น Unseen ของจังหวัดอุบล ที่ต้องอยู่ใน list การเที่ยวเลยนะ ห้ามพลาด

อ๊ะๆ แต่ยังไม่จบ ตอนหน้า พาไปเที่ยว Unseen อีก สองแห่ง ซึ่ง อเมซิ่งไม่แพ้กัน รับรอง สวยแปลก ไม่เคยเห็นมาก่อน

#Iamtraveller

 

 

Exit mobile version