Iluvtravelling

มาชวนเที่ยว วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

ก่อนจะพาออกต่างจังหวัดอีก ขอย้อนกลับมาเที่ยวใกล้ตัว เมืองกรุง ถิ่นกำเนิดสักหน่อย

ไม่ว่าใครจะทำร้ายกรุงเทพฯ ขออย่างเดียว “อย่าหยุดรักกรุงเทพ” ดังนั้น    หมวยอยากชวนเพื่อนๆ ออกมาเที่ยวเมืองไทย มาป่าวประกาศบอกชาวโลกว่ากรุงเทพฯ น่าเที่ยวแค่ไหน เราจะทำให้คุณประทับใจเมืองไทยมากกว่าเดิม

เลยมานั่งคิด คิด คิด ถ้าจะแนะนำคนต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย จะนึกถึงอะไร สถานที่แรกที่เข้ามาในหัว คือ วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม The Grand Palace ที่ฝรั่งเรียกนั่นแหละ

ก่อนหน้านี้พลาดมาครั้งนึงและ ได้ไปแค่วัดโพธิ์ ฝนตกซะก่อน อย่ากระนั้นเลย วันนี้มีเวลา กล้องพร้อม คนพร้อม ฟ้าฝน ไม่รู้ อย่าให้ต้องปักตะไคร้เลยนะ ออกเดินทางไปกอดกรุงเทพฯกัน

หมวยเดินทางจากพุทธมณฑล วันเสาร์ สบายๆ แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึง หากใครจะนำรถยนต์มา แนะนำให้มาเช้ามากกก จอดที่วัดโพธิ์ได้ค่ะ หรือ จะจอดที่วังหลัง แล้วข้ามเรือมาก็ได้นะ ได้เดินชิลล์ตลาดวังหลัง ท่าพระจันทร์อีก

วัดพระแก้ว เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่ 8.30-15.30 วันเสาร์อาทิตย์จะปิดบางส่วน คนไทยเข้าฟรี ต่างชาติเสียสตางค์นะจ้ะ เดินเข้าไปทำหน้าตาคนไทย อย่างจริงจัง เพราะดันไม่ได้พกบัตรประชาชนมาด้วย กลัวเค้าให้ร้องเพลงชาติ คิดได้ไงเนี่ย เหอๆ

สรุปผ่านฉลุย หน้าฉันคงยี่ห้อประเทศไทย เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้หรอก

ทางเข้าต้องเดินเข้าไปด้านใน ประมาณ 400 เมตร แดดดี มีเมฆมากตามคาด (รูปจะสวยไหม ต้องลุ้นเอา) เคยมาเที่ยววัดพระแก้วตั้งแต่มัธยม (นานไปมั้ย) จำไรไม่ได้เล้ย 555

ก้าวแรกที่ถึง เฮ้ย จิตรกรรมฝาผนัง สุดยอด ฉันไปอยู่ไหนมาเนี่ย เด็กกรุงเทพชายขอบพลาดได้ไง ภาพจิตรกรรมฝาผนังพระระเบียงวัดพระแก้วนั้น เขียนตามพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ของรัชกาลที่ 1 ที่ผนังจะมีหมายเลขกำกับ จุดเริ่มต้นอยู่ทางทิศตะวันออกของประตูเหนือวิหารยอด (ตรงไหนหว่า ไม่เป็นไร เดินมันสามรอบเลย 55 ต้องหาเจอแหละ) เรื่องจะวนไปทางทิศตะวันออก มีทั้งหมด 178 ห้อง

มองไป เห็นชื่อผู้วาด สง่า มยุระ เฮ้ย ใช้ยี่ห้อบนพู่กันหรือเปล่าเนี่ย ขนลุกเกรียวกราวมากมาย แหม อึ้งทึ่งกับรูปไปอีก รับรองว่าได้เสพความวิจิตรกันจนพุงกางเลยแหละ

ด้านหน้าสิ่งแรกที่เจอเป็นรูปปั้นฤาษีสมฤทธิ์นั่งชันเข่า ถือกันว่า เป็นอาจารย์ทางการแพทย์ จะเห็นว่ามีหินและแท่นบดยาตั้งอยู่ ซึ่งหากประชาชนนำยามาบดที่แท่นนี้ เพื่อให้ยาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น โดยดำริของรัชกาลที่ 3 ให้หล่อรูปปั้นขึ้น

หากหาข้อมูลเรื่องวัดพระแก้ว หรือวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงโปรดเกล้าให้สร้างขึ้น โดยเป็นวัดที่อยู่ในบริเวณพระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในหลายสมัย ทั้งสร้างเพิ่ม ขยับขยายและซ่อมแซมจนสวยงามและเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติอย่างทุกวันนี้

พระศรีรัตนเจดีย์

เดินเข้าไปด้านใน สิ่งที่สะดุดตาเห็นจะเป็น พระศรีรัตนเจดีย์ ที่เปล่งสีทองเหลืองอร่าม จำลองแบบมาจากเจดีย์พระศรีสรรเพชญ์พระราชวังกรุงศรีอยุธยา ภายในไม่ได้เปิดให้เข้าชม ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ ตรงกลางเป็นพระมณฑป มียอด 7 ชั้น ภายในประดิษฐาน พระไตรปิฏกประดับมุก ไม่มีอะไรธรรมดา พูดเลยถือเป็นสิริมงคลชีวิตที่ได้มาสักการะและชื่นชมความงาม

มีแรงต่อกันไหม มาดื่มด่ำกันต่อมีอีกเพียบที่อยากจะแชร์ความสวยงาม

ถัดไป คือ ปราสาทพระเทพบิดร ด้านในมีพระบรมรูปบูรพกษัตริย์ทั้ง 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เดิมมีการถวายบังคมปีละครั้งในวันจักรี ต่อมาในหลวงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการถวายบังคม ฉัตรมงคล, สงกรานต์ .วันปิยมหาราช หรือในโอกาสสำคัญต่างๆ … ทรงพระเจริญ

วิหารยอด
บุษบกพระราชลัญจกร

เดินมาตามระเบียง เห็นบุษบกพระราชลัญจกร ของรัชกาลต่าง มี 4 ทิศ และวิหารยอด หรือชื่อเต็ม พระเศวตกุฎาคารวิหารยอด ซึ่งสร้างเป็นที่เก็บพระไตรปิฏก ด้านข้างเป็นนครวัดจำลอง ได้ทำขึ้นในรัชกาลที่ 4 เพราะตอนนั้นนครวัดยังเป็นของเรา

นครวัดจำลอง
ชอบเจ๊สามคนนี้จริงๆ สีสันเสื้อผ้าชัดเจนมากว่าเป็นคนจีน ><

เดินไปจนถึงอีกทิศ พบเจดีย์ทอง 2 องค์อร่ามแยงตา ที่ดึงดูดใจเห็นจะเป็นรูปปั้นทั้งลิง และยักษ์ทำท่าแบกเจดีย์ไว้ที่ฐาน กดชัตเตอร์อย่างเมามัน

ตรงหน้าเป็นประตูด้านตะวันออก พบ พระปรางค์ 8 องค์ หรือ พระอัษฎามหาเจดีย์ ประดับด้วยกระเบื้องสีอย่างสวยงาม ดีใจที่แบกเลนส์ Tele มาจริงๆ

พระอัษฎามหาเจดีย์

นอกจากนั้นยังมียักษ์ทวารบาล ไม่ได้ระบุชื่อเหมือนวัดโพธิ์ และที่แตกต่างคือ ยักษ์ของวัดอื่นหันหลังให้สิ่งที่เฝ้า แต่ยักษ์วัดพระแก้ว หันหน้าเข้าอุโบสถ มียักษ์ 12 ตน โดยทุกตนมีอิทธิฤกษ์มากทั้งสิ้น

วนเรื่อยมาจนมาถึงพระอุโบสถ ฐานแกะสลักเป็นครุฑยุดนาดโดยรอบ ด้านหน้าทางเข้า สิงห์สัมฤทธิ์ทวารบาล 6 คู่เป็นสิงห์ขอมสมัยบายล บานทวารหรือประตูทางเข้าประดับมุก สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 1

ด้านในพระอุโบสถ ปัจจุบันประดิษฐานพระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหารัตนปฏิมากร พระพุทธรูปปางสมาธิทำจากหินหยกสีเขียวเข้ม เป็นศิลปะเชียงแสนตอนต้น ซึ่งทรงเปลี่ยนเครื่องทรง 3 ฤดู ร้อน ฝน หนาว นอกจากนี้เดิมพระอุโบสถวัดพระแก้วยังใช้ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาปีละ 2 ครั้งในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

เป็นภาพหนุมานที่เหมือนออกมาโลดแล่นข้างนอกเลยทีเดียว
จิตรกรรมฝาผนังโดยรอบวัดพระแก้ว

ส่วนจิตรกรรมฝาผนัง บอกเล่าไตรภูมิในพุทธศาสนา ภาพชาดก พุทธประวัติ หรือกระบวนพยุหยาตรา นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูป รัชกาลที่ 1,2 ปางห้ามสมุทรทำจากทองคำ และพระสัมพุทธพรรณี เป็นพระสมาธิหล่อกะไหล่ทองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้(ด้านในห้ามถ่ายรูป ใช้ตาและใจดื่มด่ำและเก็บใส่ความทรงจำอย่างเดียว)

หอมณเฑียรธรรม

รายรอบจัดสร้าง ศาลาราย หอพระมณเฑียรธรรม หอพระนาก วิหารพระคันธารราฐ ตอนเดินไม่ได้ดูแผนที่ เดินยังไม่ทั่วดีนัก ครั้งหน้าไปซ่อมใหม่ ยิ่งหาข้อมูลทั้ง wikipedia ซื้อหนังสือประวัติวัดพระแก้ว หาข้อมูลเพิ่มเติมจากเวป blog ต่างๆ มาเยอะขนาดนี้ แล้วอยากไปซ้ำมาก

 

หอระฆัง
วิหารคันธารราฐ

หวังว่าจะได้ไปเที่ยวอีก กอดเมืองกรุงแรงๆ ด้วยการเที่ยววัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระแก้ว มรดกของคนไทย

# I am traveller

ใครอ่านถึงบรรทัดสุดท้าย ขอบคุณมากนะคะ ที่รักเมืองไทย I love U

Exit mobile version