Travel Quote : ความสุขของใคร

ช่วงนี้ จะไปทำงานด้วยกันกับคุณผู้ชาย เพื่อประหยัดค่าน้ำมัน แถมได้ใช้เวลาช่วงเช้าในรถด้วยกัน รถติดเลยไม่ทำให้ใจหงุดหงิดสักเท่าไหร่

เราต้องขับรถผ่านแถวสวนดุสิตทุกวัน และมักจะติดไปแดงแยกที่จะเลี้ยวไปสวนอัมพร ใต้ต้นไม้ใหญ่ เห็นน้องหมาแก่ตัวหนึ่ง นอนอยู่ที่เดิมทุกวัน

พอรถมาติดจุดเดิมบ่อยครั้ง ก็สังเกตุว่าน้องหมา ค่อนข้างเชื่อง ขนดำรุงรังเชียว เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ต้องขับผ่านทางนี้ ทุกเช้าจะเตรียมอาหารมาทานบนรถ เช้านั้น ผู้ชายถามว่า “ข้าวกินหรือยัง เราก็อ๋อ ข้าวหมกไก่เจ้าอร่อย ที่ไปต่อคิวเนี่ยอ่ะเหรอ ยังเลย อร่อยนะ ชิมหรือเปล่า”

ผู้ชายบอกว่า “ยังไม่กิน เอาไปให้หมาได้มะ”  นาทีนั้น มองอย่างอึ้งๆ ก็ได้วะ

จากนั้นเราก็จอดรถแล้ว เดินเอาข้าวไปให้น้องหมา หลังจากนั้น ทุกครั้งที่ผ่านเราต้องไปส่งส่วยให้หมาน้อยที่หน้าตาเคยหล่อ ดูเหมือนจะมีคนใจดี เอาข้าวเอาน้ำมาทิ้งไว้ให้เหมือนกัน

จนมาวันหนึ่ง ขับรถผ่านไป หาไม่เจอ ใจหายมาก ไม่รู้ว่าถูกรถชนหรือเป็นอะไร อาทิตย์ที่หนึ่ง สองอาทิตย์ก็แล้ว เราคิดถึง พูดถึงทุกวัน

หลังจากนั้นอาทิตย์ที่ สาม นายมอมแมมก็กลับมา เรารีบเอาหมูปิ้งของโปรดไปให้ แต่นายมอมแมม ไม่ลุกขึ้นมากิน สภาพร่างกายผอมโซ นอนอย่างเดียวเลย อาการเหมือนหมาป่วย

คิดว่าจะหาทางช่วยมอมแมมยังไงดี นั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศเพลินๆผู้ชาย โทรมาหาเสียงสั่นเครือ เศร้ามาก บอกว่า เค้าโทรไปหาที่อุปการะนายมอมแมม แต่ไม่มีที่ไหนรับเลย มีแต่เสนอน้องหมาให้เราเลี้ยง แล้วเค้าก็พูดออกมาคำหนึ่ง ซึ่งกินใจเรามาก “เราไปพาน้องหมามาเลี้ยงกันเถอะ” ฉันไม่ปฏิเสธ ดีใจด้วยซ้ำ ที่เราจะได้ให้ชีวิตใหม่น้องหมาหนึ่งตัว

วางแผน เตรียมรถ ผ้า เชือกคล้องคอ ติดต่อโรงพยาบาลสัตว์เรียบร้อย เดินตามหาน้องหมา  เอ๊ะ…ไม่อยู่ที่เดิม เดินหาไล่ตามถนนเส้นนั้นสักพัก เห็นว่าน้องกำลังเดินตรงขึ้นไป และกำลังข้ามถนน เออ รอสัญญาณไฟด้วยวุ้ย ฉลาดๆ ไม่ธรรมดา

Booking.com

image

เราตามไปทันจนเจอน้อง รอข้ามไฟแดง พร้อมมีป้าคนนึงยืนข้างๆ เราเรียกแล้วเอาขนมมาล่อ น้องเดินมาหารับขนมจากมือ เราค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้ ชวนพูดคุย จนป้าข้างๆ ถาม ว่า “จะเอามันไปเลี้ยงเหรอ” เราตอบด้วยรอยยิ้มว่าใช่ค่ะป้า มันมีเจ้าของหรือเปล่าคะ

ป้าบอกว่า มันไม่มีเจ้าของหรอก แต่ป้าสงสาร เอาอาหารมาให้มันทุกวัน อ้อ นางฟ้าใจดีคนนี้เอง ที่เราเห็นข้าวและชามน้ำวางเติมไว้ทุกวัน ป้าบอกว่า ตอนเช้ามันจะนอนรอป้าที่แยกไฟแดง และตอนเย็นจะตามป้าไปอยุ่ร้านอาหารข้างถนน ทุกวัน

ป้าคะยั้นคะยอเราว่า พามันไปเลย มันจะได้สบาย เราก็ตามป้าไปที่ร้าน นั่งรอคอยน้องหมาให้หายตื่นเต้นอย่างใจเย็น แต่พอป้าบอกว่า จะมีคนรับไปอยู่ด้วย ปรากฏว่ามันไม่เดินมาใกล้เราอีกเลย ไม่ว่าจะเอาขนมล่ออย่างไรก็ตาม

รอกันเกือบสองชั่วโมง น้องก็ไม่ยอมมาเข้าใกล้ ป้าบอกให้เรากลับไปก่อน ค่อยมาใหม่วันหลัง

เรากลับบ้านพร้อมความผิดหวัง แต่พอกลับมานั่งนึก บางที ความสุขของคนเราก็ต่างกัน ความสุขของหมาตัวนั้น คือ การได้อยู่กับคนที่มันรัก แม้ว่าจะต้องตากแดดตากฝน ป่วยไข้ แต่อย่างน้อย แค่ได้รอคนที่รักก็เป็นสุขใจแล้ว

ความสุขในความคิดเรา ที่คิดว่า จะให้ที่คุ้มฝน ความรัก อาหารอร่อย เทียบไม่ได้เลยกับความรักของป้า ดังนั้นเราไม่ควรตัดสินว่าความสุขของเรายิ่งใหญ่กว่าของใคร

ขอบคุณน้องมอมแมมที่สอนฉัน ให้ฉันมองเห็นและเข้าใจความสุขมากขึ้น ความสุขของใครก็ของมันอ่ะเนอะ

แล้ววันหลังพี่หมวยจะซื้อหมูปิ้งไปฝากอีกนะจ้ะ

# I am traveller

27 มีนาคม 58

 

Leave a Reply

>
Facebook