เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน (ต่อ)
หลังจากชมคลิปเป็นน้ำจิ้มกันเมื่อวานแล้ว วันนี้เลยขอรีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน รอบล่าสุดที่ไป มีผู้ใหญ่ไปด้วย เวลาค่อนข้างน้อย เลยได้แค่นั่งเรือเที่ยว
หากใครไม่ต้องการนอนค้าง ก็สามารถนั่งเรือเที่ยวได้ ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง เหมาลำประมาณ 1,200 -2,000 บาทค่ะ แล้วแต่วาทศิลป์และขนาดเรือเลย
เขื่อนเชี่ยวหลาน ห่างจากตัวเมือง สุราษฎร์ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ถ้าหากต้องการค้างคืน แนะนำให้ติดต่อรีสอร์ทมารับที่สนามบินจะสะดวกกว่าเขื่อนเขี่ยวหลาน ตั้งอยู่ที่ ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสก โดยเป็นพระราชดำริของในหลวง ที่ต้องการสร้างเขื่อน เพื่อช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำในกับประชาชนในภาคใต้ น้ำพระทัยมาถึงทุกที่ในเมืองไทยจริงๆ
เขื่อนเชี่ยวหลาน ชื่ออันไพเราะ ชื่อเขื่อนรัชชประภา ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมี กุ้ยหลินเมืองไทย คือ เขาสามเกลอ หรือภูเขากลางน้ำ ที่ลงไว้ในคลิป และ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นการขับเรือผ่านช่องหิน หากได้มาเยือนเขื่อนเชี่ยวหลาน อยากให้มาพักสัก สองคืน
หมวยเลือกไปพัก แพ 500 ไร่ ซื้อแพคเกจมาจากงานท่องเที่ยว โดยเลือกพักที่แพ 500 ไร่ และ ภูผาและลำธาร อันเป็นที่พักยอดนิยมของที่นี่เลยทีเดียว
สถานที่ลงเรือสะดวกสบาย เรือค่อนข้างใหญ่ และปลอดภัยใช้ได้ค่ะ แต่ที่พักค่อนข้างไกล ใช้เวลานานสักหน่อย เราก็ดื่มด่ำกับทัศนียภาพรอบข้างกันไป
เรือพาเรามาแวะเขาสามเกลอทางผ่านก่อนเข้าที่พัก Land Mark ของเขื่อนเลยนะ สวยพอๆ กับเขาตะปูที่อ่าวพังงาได้ไหม >_<
กิจกรรมของที่นี่ ไม่มีอะไรมาก ดื่มด่ำธรรมชาติ พายเรือคายัค ร้อนก็กระโดดน้ำ เหนื่อยก็กิน 555 สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมี แถมช่วงกลางวันปิดเครื่องปั่นไฟอีก วันแรกก็อาจจะทุรนทุรายสักหน่อย แต่พอเราได้เอาขาจุ่มน้ำ ภาพเบื้องหน้าคือน้ำใสเย็น ด้านหลังเป็นภูเขา หลับตาฟังเสียงนกร้อง และเสียงคนพูดคุยหัวเราะกันสนุกสนาน
เรามาถึงที่พักช่วงบ่ายไม่ต้องคิดอะไรมาก กินก่อนเลย อาหารถึงแม้จะจัดเป็นแพคเกจต้องยอมรับเลยว่า อร่อยและให้เยอะมาก ที่อ้วนไปแล้วยิ่งอ้วนไปกันใหญ่ เป็นคนไม่ค่อยปฏิเสธใครเสียด้วยสิ กินเสร็จก็กระโดดเล่นน้ำที่หน้าห้องพักได้เลย ห้องพักมีขนาดกะทัดรัด ตกแต่งเป็นไม้โทนสีอบอุ่น น้ำใสเย็นสบายดี สามารถเล่นได้ทั้งวันแดดไม่ค่อยแรง แถมค่ำๆ ฝนตกนิดหน่อย หลับสบายฝันดีเลยคืนนั้น
บอกได้เลยว่าเหมือนอยู่บนสวรรค์ อากาศดีมากค่ะ ตอนเช้าเรียกว่าอากาศเย็นทีเดียวเลย อย่างที่บอกการเดินทางลำบาก ดังนั้นต้องรักษาสุขภาพ ไม่ประมาท เพราะห่างหมอไกลทีเดียวนะจ้ะ
ตอนเช้ากิจกรรมของที่พัก ให้นั่งเรือไปส่องสัตว์ ดูนกค่ะ เราได้เห็นนกเงือก และทำให้รู้ว่า ประมาณเดือนพค. จะมีต้นไม้ (จำชื่อไม่ได้) ออกลูก นกเงือกก็จะบินออกมาจากอุทยานมากินลูกไม้นี้
เราก็จะได้เห็นมัน นกเงือกที่นี่ตัวใหญ่ เวลาบินผ่านเราจะได้ยินเสียงลมชัดมาก กระพือปีกครั้งละ 3 ที ร้องดังแก๊กๆ
นอกจากนี้ เรายังได้นั่งเรือเข้าไปในบริเวณอุทยาน ซึ่งป่ายังอุดมสมบูรณ์มาก เราโชคดีมาก ได้เห็นกระทิงป่าเป็นครั้งแรก คนเรือมีความชำนาญมาก บอกให้เราใช้เสียงให้น้อยที่สุด และ พยายามบังคับเรือให้อยู่เหนือลม เพราะหากอยู่ใต้ลม พวกกระทิงได้กลิ่นเรา ก็จะหนีขึ้นไปในป่า ไม่ลงมากินน้ำให้เห็น
เสียดายค่ะ ที่เมื่อก่อนกล้องยังไม่ค่อยดีเหมือนตอนนี้ แต่ไม่เป็นไร จะกลับไปซ่อมแน่นอน
จริงๆ แล้ว เรานอนสองคืน ตอนเช้าเราจะเลือกไปเดินป่า ขึ้นจุดชมวิวไกรสร ซึ่งระหว่างทางก็มีน้ำตกแปดเซียน แทนที่จะไปดูสัตว์ก็ได้ พอบอกว่าเดินขึ้นเขาครึ่งวันเท่านั้นแหละ มติเอกฉันท์ นั่งเรือไปส่องสัตว์ ชิลล์ๆ 555 ถึงตอนนี้อยากจะไปสังขารไม่รู้จะไหวเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า
หลังจากกลับจากทริปย่อย เราก็ทานข้าวแล้วไปย่อยอาหารด้วยการพายเรือคายัคกันค่ะ เราสามารถพายเรือคายัคไปที่พักใกล้ๆถัดไปได้ แนะนำให้ใส่ชูชีพสำหรับคนว่ายน้ำไม่แข็ง และพกน้ำดื่มไปด้วย จิบเป็นระยะระหว่างทำกิจกรรม จะทำให้เราสดชื่นมีพลัง เพราะบอกเลยว่า พายกลับทวนกระแสน้ำ 555
ตอนกลางวัน เนื่องจากใช้แรงอย่างหนักมาตอนเช้า เลยนอนหลับสบาย บ่ายๆ ก็เล่นน้ำที่พัก ได้อยู่กับตัวเอง กับคนที่รัก กับธรรมชาติอย่างแท้จริง รู้สึกดีมากๆเลย
หากใครมาเที่ยวช่วงเดือน พ.ย. ถึงเดือน มี.ค. เดินป่ามีโอกาสเห็นดอกบัวผุด ซึ่งบานปีละครั้งเท่านั้นด้วยนะคะ เช้าวันถัดไปที่พัก พาเราไปชมกุ้ยหลินเมืองไทย ในแสงเช้า หมวยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่ อยากจะชื่นชมกับธรรมชาติด้วยตาและใจ ทุกประสาทสัมผัสเลยก็ว่าได้ บันทึกภาพความสวยงามของธรรมชาติไว้
เที่ยงๆ ทานข้าวกลางวัน มีฝรั่งที่มาพักชวนขึ้นเขา ก็ลังเลเล็กน้อยอ่ะนะ แต่อย่าเล้ย บ่ายแก่ก็ต้องนั่งเรือกลับแล้ว เดี๋ยวมาไม่ทัน 555 ทั้งหมดคือข้ออ้าง
เขื่อนเชี่ยวหลาน สวรรค์แดนใต้ ปอดเมืองไทย ฉันจะจำเธอไม่รู้ลืม
# I am traveller
11 พ.ค. 58