หนึ่งปีมีครั้ง สักการะรอยพระบาท เขาคิชฌกูฏ

หลายคนที่ใฝ่ฝันอยากไปสักการะ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏสักครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยความศรัทธาหรือด้วยความอยากรู้ ก็ทำให้คนมากมายหลั่งไหลไปสัมผัสสักครั้ง หมวยเลยขอรวบรวม การเดินทาง ค่าใช้จ่าย และประวัติอย่างย่อ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการไปนมัสการรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าด้วยศรัทธาค่ะ สาธุๆ

เขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ครอบคลุมอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ ตำบลพลวง

การเดินทาง ส่วนใหญ่แนะนำให้เดินทางในตอนกลางคืน และใช้บริการรถสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถบขส.หรือ รถทัวร์เนื่องจากคนขับจะได้คิวในการซื้อตั๋วขึ้นด้านบนเขา โดยจ่ายเงินให้คนขับเองเลย ไม่ต้องนั่งรอซื้อตั๋วหากนำรถมาเอง หากช่วงวันหยุดบางครั้งรอกัน 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว รถทัวร์มีติดต่อตรงอนุสาวรีย์

การขึ้นเขามี 2 จุด จุดแรกเสียค่าบริการ 60 บาท

จุดที่ 2 ต้องชำระอีก 50 บาทและต่อคิวเพื่อขึ้นเขาอีกที วันธรรมดาคนจะค่อนข้างน้อยกว่าวันเสาร์อาทิตย์

ระยะเวลา นั่งรถขึ้น 2ต่อ ประมาณ 30 นาที (หากไม่ต้องรอคิว) ใครที่ชอบความหวาดเสียวแนะนำให้นั่งด้านหลัง

และจากนี้เดินขึ้นเขาอย่างเดียวระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร สปีดปกติใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จุดแรกอย่าลืมแวะดื่มน้ำชาประตูสวรรค์ฟรี จากนั้นไม่นานจะเจอรอยพระบาทให้เราได้สักการะ ตลอดทางมีให้สักการะพระสารีริกธาตุ ส่่วนจุดที่เป็น highlight คือผ้าแดง หลายคนอยากไปให้ถึงตรงจุดนี้ จะนำมาจากบ้านหรือซื้อด้านบนก็ได้ เขียนชื่อและนามสกุล พร้อมพรที่ต้องการขอ 1 ข้อ (มันสำคัญตรงนี้แหละ)

เส้นทางขับรถ

จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขุมวิทจนถึงจังหวัดจันทบุรี จากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีขับผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทาง 24 กิโลเมตร จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือสามารถนั่งรถสองแถวสีฟ้าสาย จันทบุรี-จันทเขลม ขึ้นรถได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ท่าแฉลบ หรือสอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ โทร. 039-452-074 หรือ 02-562-0760

ค่าใช้จ่าย ปกติรถตู้ ไป join กับคนอื่นคิดประมาณ 600-650 บาท กรณีเหมา นั่งได้ 10 ท่านประมาณ 5,800-6,000 บาท โดยส่วนใหญ่หลังลงเขาจะพาไปเที่ยววัดสุกิม และชายหาดจังหวัดจันทบุรี บางเจ้ามีให้เลือกด้วยว่าจะเที่ยวไหนหรือตรงกับกรุงเทพฯเลย เป็นอันจบทริป เสียค่าขึ้นและลงเขาไป-กลับ ประมาณ 210 บาท (ตอนลงเสียต่อละ 50 บาท)

กำหนดการเปิดขึ้นลงเขา ต้องรอประกาศจากอุทยาน ปี 2559 เปิดให้ขึ้นเขาได้ตั้งแต่ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 7 เมษายน 2559 มีรถบริการรับส่ง หรือเดินเท้า ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละปีจะแจ้งเปิดและปิดไม่ตรงกันดังนั้นต้องหาข้อมูลก่อนเดินทางโดยจะจัดช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี

ประวัติ ที่เขาคิชฌกูฏ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาเนื่องจากมีรอยพระพุทธบาท รอยพระพุทธบาทดังกล่าว มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่ มีรอยลึกประมาณ 2 เมตรเศษ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กิโลเมตร และประดิษฐานอยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตร จากระดับน้ำทะเล

ว่ากันว่าใครได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏก็เปรียบเหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะได้รับกุศลอันยิ่งใหญ่ ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง และเชื่อกันว่าหากได้มาอธิษฐานขอพรแล้วจะสมหวังดั่งใจปรารถนา ในแต่ละปีจะมีการจัดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท ตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี หรือช่วงช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม – เดือนมีนาคม 

แน่นอนว่า หากได้มีโอกาสขึ้นไปนมัสการรอยพระบาทแล้ว ก็ต้องดั้นด้นไปให้ถึงผ้าแดงสักครั้ง เพื่อขอพร สักข้อล่ะนะ

เอ๊า…เลือกได้สักข้อ แล้วลองขึ้นไปขอพรกันสักครั้ง เผื่อจะเป็นจริงก็ได้ใครจะรู้

#Iamtraveller

หมายเหตุ credit ภาพทั้งหมดจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ faithstory