อังวะ
วันสุดท้ายที่เมืองมัณฑะเลย์ วันนี้เราเดินไปเมืองอังวะ หรือ รัตนะปุระอังวะ เป็นเกาะที่ต้องเดินทางออกนอกเมืองซึ่งต้องข้ามแม่น้ำอิระวดีไปราว 21 กิโลจากตัวเมือง
และด้วยเมื่อวานตื่นไปชมพระมหามัยมุนี และพิธีการล้างหน้าแต่เช้า ทำให้วันนี้บอกคนขับว่าขอออกสายสักหน่อย ชิลล์ๆ เรานั่งรถออกไปนอกเมืองแวะสถานที่ท่องเที่ยวแรก
จำไม่ได้ว่าชื่อวัดอะไร ต้องขึ้นไปบนเขา มีพระพุทธรูปเป็นร้อยองค์เลย แถมเห็นวิว ทั้งเมืองอังวะ และมัณฑะเลย์ทั้งเมืองเลย เราใช้เวลาที่นี่ไม่นาน เพราะคนขับอยากพาเราไปให้ทันใส่บาตรที่วัดมหากันดายน
วัดมหากันดายน เหมือนที่นี่จะเป็นที่ฝึกพระธรรมฯ ของพระสงฆ์ในพม่า อาคารที่พักเหมือนอาคารเรียน และส่วนใหญ่จะเป็นเณร เราเดินทางไปถึงทันเวลาพอดี ที่เณรเดินเรียงแถวมาเพื่อรับการบิณฑบาตร นักท่องเที่ยวยืนรอเก็บภาพแน่นขนัด ต้องยกความดีทั้งปวงให้คนขับรถที่พาเรามาที่นี่
จากวัดมหากันดายนเดินทางไปที่เมืองอังวะ ใช้เวลาไม่กี่อึดใจ ถนนที่เห็นจะเริ่มเป็นแนวลัดเลาะตามแนวแม่น้ำอิระวดี
กว่าจะถึงก็ใกล้เที่ยงแล้วท้องร้องดังเชียว เลยเลือกทานอาหารแถวนั้นและตบๆ ด้วยเบียร์มัณฑะเลย์ 1 ขวดรอเรือข้ามไปเมืองอังวะ วิถีชีวิตผู้คนที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำเริ่มมองได้เห็นมากขึ้น เราจ้างรถม้า คราวนี้เป็นเด็กน้อยขับรถม้าพาเราชมเมือง เที่ยววัด อารณ์เดียวกับวัดที่เมืองอยุธยา เพียงแต่หลากหลายกว่า มีทั้งวัด เจดีย์ และอาคารเก่า
เมืองอังวะ Ava หรือ Inwa เสมือนเมืองร้าง เนื่องด้วยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้ผู้คนอพยพออกมาจากเกาะ ดังนั้นจะเห็นแต่เพียงคนขับรถม้า และชาวบ้านบางตาที่ยังอาศัยอยู่บนเกาะ น้องที่พาเราขับหันมามองหน้าพวกเราบ่อยครั้ง จึงถามไปว่ามีอะไรเหรอ เค้าบอกว่าหน้าพวกเราสวย หุๆ ไม่ได้ชมตัวเองนะ เค้าว่าอย่างนั้นจริงๆ โดยเฉพาะพี่คนนึงที่ขาวแบบคนจีน เค้าจะชอบกันมาก ประหนึ่งดารา มีครอบครัวคนพม่ามาขอถ่ายรูปด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวจะเรียงตามลำดับเป็นวงกลมเหมือนกันทุกคัน ที่แรก คือ Yadana Hsemee Pagoda Complex คงเหลือแต่เสาตามกาลเวลา พระพุทธรูปยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ อาคารหักพังไปหมด แต่ก็เพิ่มเสน่ห์ความขลังให้กับเจดีย์แห่งนี้เช่นเดียวกัน
Bagaya Monastery เป็นสถานที่ที่สอง เรือนไม้สัก ด้วยความที่อลังการไม่เท่าในเมืองมัณฑะเลย์ เลยไม่ตื่นเต้นเหมือนครั้งแรกแล้ว ภายหลังเห็นว่ามีการเก็บสตางค์ค่าเข้าชมด้วย
ต่อมาเป็นหอสังเกตุการณ์ Palace Tower หรือ Watch Tower เป็นซากอารยธรรมของพระราชวัง Baggidaw ในสมัย ศตวรรษที่ 19 โดยมีความสูงถึง 30 เมตร ใช้สำหรับส่องดูข้าศึกเพื่อความปลอดภัยในสมัยนั้น ตอนหมวยไปเค้ายังให้ขึ้นไปด้านบนได้ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังแข็งแรงพอหรือเปล่า เพราะเดิมก็เอียงๆ ด้วยแรงแผ่นดินไหวเมื่อครั้งกระโน้นอยู่แล้ว
จบทริปที่เมืองอังวะ ด้วย วัดเมนุอุจเจา Maha Aung Mye Bonzan Monastry สีเหลืองอ่อน ค่อนข้างเก่าทีเดียว แต่ยังคงความสวยงามของปูนปั้น อาคารนี้ขึ้นชื่อเรื่องการก่อสร้างด้วยก้อนอิฐ หรืออิฐมอญ คือสมัยก่อนของพม่าเน้นการสร้างอาคารด้วยไม้ แต่อาคารนี้เป็นแห่งแรกๆที่สร้างด้วยอิฐทั้งหมด และนำไม้มาตกแต่งอาคารบางส่วนเท่านั้น
ระหว่างทางควบม้ากลับเกาะฝั่งโน้น สังเกตุเห็นน้องเค้าบังคับม้าโดยการใช้ดีดปากแทนการตีม้า หรือใช้การเปล่งเสียงดังๆ ดีดปากเบาๆ แทนการออกเสียงว่า ช้าหน่อย หยุด หรือเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา แปลกดี พยายามจะลอกเลียนแบบ คิดว่าน่าจะทำให้ม้าสับสนมากขึ้นอ่ะนะ 555 ลาน้องด้วยการถ่ายภาพหมู ดูน้องจะเขินอายเราเล็กน้อย
ระหว่างรอคนขับเจอน้องๆเด็กน้อย เราส่งลูกอมเป็นใบเบิกทาง จากนั้นก็ขอทานาคาน้องให้แต่งแต้มแก้มเราเล่น เพื่อให้สมและกลมกลืนกับที่มาเที่ยวพม่า คนไทย คนพม่า ก็พี่น้องกันทั้งนั้น พอนุ่งผ้าถุง ทาแป้ง ดูไปมาเราก็มาแนวสาวพม่าเหมือนกันวุ้ย
พอเจอคนขับ เราก็แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จพอดี จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อด้วย สะพานอูเบ็ง เพื่อเก็บภาพยามเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตก สะพานอูเบ็ง Ubeng Bridgeนี้ถือเป็นสะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ที่รองลงมาก็จะเป็นสะพานมอญที่สังขละบุรีของไทย
Highlight ของสะพานนี้คือ ถ่ายภาพวิถีชีวิตผู้คนที่เถึงดินข้ามสะพานไม้ไปมา ซึ่งยาวมาก เดินไปสุดทาง ท่าจะเหนื่อยน่าดู และเก็บภาพพระอาทิตย์ตกที่สะพานไม้แห่งนี้ โดยการท่องเที่ยวมีให้เลือกแบบเดินเล่นบนสะพาน หรือจะจ้างเรือล่องไปตามแม่น้ำข้ามผ่านสะพานอูเบ็งก็ได้ ส่วนหมวยสองใจ เลือกมันสองอย่างเลย มาทั้งทีเอาให้คุ้ม
มารอบนี้ได้ภาพที่ถูกใจหลายภาพ และสนุก กับวิถีชีวิตของชาวพม่าอย่างแท้จริง นอกจากวิวของพระอาทิตย์ตกที่สะพานอูเบ็งจะสร้างความประทับใจแล้ว หมวยยังจำความรู้สึกสนุกที่ยื่นแก้มให้เด็กๆทาแป้งทานาคารูปใบไม้ได้อยู่เลย เป็นความทรงจำที่ถึงแม้จะผ่านไปเกือบ 3 ปีแล้วแต่คิดถึงก็ยิ้มได้ทุกครั้ง >_<
พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไปย่างกุ้ง แล้วเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวก็ซ้ำรอยอีก (เป็นทริปที่รวมการตกเครื่อง ตกรถ ทุกอณู จริงๆ) คือ เราถูกเลื่อนไฟล์ท โอ้ว… เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ได้ไปชมเจดีย์ชเวดากองที่ย่างกุ้งหรือไม่
โปรดติดตาม ตอนต่อไป “เจดีย์ชเวดากอง”
# I am traveller
ปล หากใครมาเยือนเมืองมัณฑะเลย์ มีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืน เที่ยวตามหมวยได้เลยค่ะ รับรองว่าชมไฮไลท์ทั้งหมดของมัณฑะเลย์แล้ว (ติดตามได้จากตอน มัณฑะเลย์, พระมหามัยมุนี และอังวะ หรือ Related Link ด้านล่างเลยจ้า)