สถานที่ท่องเที่ยว สวนผึ้ง ราชบุรี
ว้อดก้า พาเที่ยว : สถานที่ท่องเที่ยวสวนผึ้ง ราชบุรี
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากใช้พลังงานเกือบทั้งหมดที่มีของผมไปกับน้ำตกเก้าโจน อ๊ะๆๆ…ไม่ใช่กระผม นายว้อดก้าจะนอนแช่อย่างเดียวนะคร้าบ ผมเดินไปตามน้ำตก แชะถ่ายรูปกลางแสงแดดเดือนเมษา คิดดูฮะว่ามันร้อนแค่ไหน ไม่ใช่มืออาชีพทำไม่ได้นะครัช
ช่วงบ่ายแก่ๆ ฝนตกหนัก ชุ่มฉ่ำเสียจริงๆ ผมนี่ดีใจมากเลย นอนผึ่งพุงสบาย หลังจากกำจัดพ่อที่พยายามมาแย่งที่นอนของผมแล้ว
ช่วงเย็น พ่อพาผมไปที่ร้าน ม่อนไข่ ร้านอาหารไทยที่เปิดมากกว่า 60 ปี ขับลึกเข้าไปด้านในสวนผึ้ง อีกนิดนึงจะทะลุพม่าอยู่แล้วฮะ ไม่น่าเชื่อว่าร้านอาหารจะมาเปิดไกลแหล่งชุมชนขนาดนี้
ร้านอาหารสร้างเป็นเรือนกระจกด้านหน้า เปิดเป็นคาเฟ่ เก๋ๆ ขายกาแฟ น้ำผลไม้สมูทตี้ต่างๆ รวมถึงขนมเค้กด้วย พ่อขับรถไปจอดด้านใน มีรถอยู่เยอะเชียว ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ พ่อถามร้านแล้วฮะ ว่าผมเข้าได้หรือเปล่า ร้านบอกว่า คนไม่เยอะไม่มีปัญหา
แต่ปรากฏว่า ที่นี่ พี่ๆ หมาเจ้าถิ่นเยอะมากเลยฮะ ผมนี่วิ่งหางจุกตูดแซงพ่อไปเลยฮะ ทางเดินเป็นไม้ และมีต้นไม้ครึ้มระหว่างทาง ถ้าไม่มีพี่ๆ วิ่งไล่ น่าจะเดินได้ชิลล์กว่านี้ ทางเดินนำไปสู่ร้านอาหาร ด้านในคนเยอะเชียว เอ๊ะ…แล้วอย่างนี้ ผมจะเข้าได้หรือเปล่าเนี่ย
แม่เดินนำไปถามทางร้าน พนักงานยิ้มรับ ไม่มีปัญหา แม่เลือกนั่งด้านนอก ผมจะได้ไม่รบกวนใคร จริงๆ ผมออกจะเรียบร้อยนะฮะ แต่พี่ๆ พนักงานกลัวผมกันไปเอ๊ง อย่างมากก็ขอดมนิดหน่อย
แม่สั่ง ปลาลุยสวน บ่นว่าเผ็ด แต่ก็กินไปบ่นไป ผมเลยไม่แน่ใจว่าจริงหรือเปล่า เพราะอดกิน ฮือๆ
ที่เด็ดสุดๆ เห็นจะเป็นเครื่องดื่ม น้ำสัปปะรดโยเกริ์ตปั่น สัปปะรดแท้ของสวนผึ้ง ที่สมราคาคุยมาก อร่อยนัวเป็นที่สุด ใครมาต้องลิ้มลองนะฮะ ส่วนตัวผมว่ามันเปรี้ยวไป ผมไม่ค่อยชอบของเปรี้ยว โปรดของหวานมากกว่า ไอติมน่าจะดีนะแม่นะ
คืนนี้ นอนหลับสบายอาหารอร่อย อากาศเย็นสดชื่นมาก
เช้าวันนี้ ทางรีสอร์ทเสริฟด้วยข้าวต้มไก่ ที่สาดไก่ซะเต็มจาน ผมลองชิมแล้วเด็ดจริงๆ แต่แม่แบ่งให้ผมกินนิดเดียว ไม่จุใจเลยฮะ วันนี้มีเด็กมาเล่นกับผมด้วย แหมน้องนี่ใจกล้าดีจริง ไม่กลัวพี่เลย ผมไม่ค่อยชอบเด็กเท่าไหร่ เด็กๆ ชอบมากินของกินยั่วผม แถมไม่ค่อยจะแบ่งอีกต่างหาก
วันนี้เจ้าของรีสอร์ท มาคุยกับผมด้วยฮะ บอกว่าหน้าผมหล่อ แหมพี่นี่ตาถึงจริงๆ รีสอร์ทพี่ก็เท่ห์ฮะ น่ารัก สะดวก เสียดายไม่มีรั้วกั้น ไม่งั้นพ่อบอกว่าจะปล่อยผมให้ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ
แม่จะพาไปเที่ยว แม่ฮะ เอาที่ไม่ร้อนมากนะครัช อย่าลืม ว่าผมอ่ะ หนุ่มเหนือ ทนอากาศร้อนไม่ค่อยจะได้ ไม่ใช่เพราะไขมันรอบพุง แต่อากาศมันเหลือจะทนจริงๆนะฮะ
พ่อขับรถเลี้ยวเข้าไปที่ New Land เห็นว่า มีรถไฟ กับที่ถ่ายรูป ที่นี่มีน้องหมาเจ้าถิ่นดุมาก พนักงานบอกว่าอยู่แถวร้านอาหาร ผมนี่ไม่กล้าไปใกล้แถวนั้นเลย พ่อเลยพาเลี่ยงนั่งรถไฟเล่นแทน
ขาเข้าชมที่นี่ไม่เสียสตางค์ ให้เลือกเป็นค่าเครื่องเล่น 1 อย่าง เราเลยเลือก นั่งรถไฟ ที่นั่งมีให้เลือกหลายหลาก เราเลือกนั่งที่นั่งไม้ เพราะผมจะได้ยืนสองขาเกาะได้ง่ายหน่อย ขบวนของเราไม่มีใครเลยฮะ
นั่งรอสักพัก รถก็ออกจากชานชาลา มันตื่นเต้นมากเลยฮะ พี่เค้ากดวูด ปู้น ปู้น แล้วรถไฟรถไฟก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้าช้าๆ สักพักก็เพิ่มความเร็วขึ้น ผมนี่ยิ่งตื่นเต้นเลย ก็ผมเพิ่งนั่งรถไฟเป็นครั้งแรกนี่ฮะ อยากจะกระโดดออกไปดูว่ามันเคลื่อนไปข้างหน้าได้ยังไง
สองข้างทางเป็นหญ้าขึ้นสูง นั่งไปสักพัก พี่คนขับก็หันมาบอกว่าให้ลง เป็นจุดที่เล่นเกมส์ ซื้อตั๋วแล้วเล่นเกมส์แลกตุ๊กตาได้ พ่อเลือกยิงปืน 30 บาท นัด แกะตก ตัว จะได้ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่
ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเสียงดังมาก แต่พ่อกับแม่ สนุกกันใหญ่เลย ยืนเล็งปืน เลือกแกะตัวที่ใกล้ที่สุด แต่จบเกมส์ ผมไม่ยักจะเห็นว่าพ่อกับแม่ได้ตุ๊กตามาให้ผมสักกะตัว อุตส่าห์ เชียร์อยู่ห่างๆ
เราลงเดินข้ามรางรถไฟไปอีกนิดก็เป็นฟาร์มแกะ แหม แกะเยอะจริงๆ มีแทบทุกจังหวัดเลยฮะ พวกแกะเนี่ย เห็นจะไม่ค่อยถูกชะตากับผมสักเท่าไหร่ ชอบกระทืบเท้าทำท่าข่มขวัญ หน้าตาหงุดหงิดอะไรตลอด
แม่ก็พยายามจะจูงผมไปใกล้ๆ เอาฮะ “ไฮ่ พี่ๆ สบายดีไหมฮะ” โอเค สิกกะแร็ตนะฮะ บาย
ผมก็เต็มที่ที่สุดได้เท่านี้แหละฮะ จริงๆ มีตั๋วราคา 60 บาทเข้าไปด้านใน แนบชิดกับพี่แกะ รวมถึงให้อาหารได้นะฮะ แต่แม่ก็กลัวว่าผมจะไปชิมแกะ โถ…แม่ก็คิดได้ ผมนี่อ่ะนะ จะโดนพี่ๆแกะ รุมตื้บมากกว่า
ถ่ายรูปเสร็จ เราก็กลับมาขึ้นรถไฟ นั่งวนต่อไปด้านหน้า ด้านหน้าที่ติดถนน ทำให้เรามองเห็นวิว New Land ได้ชัดเจนขึ้น ผมพัดหน้าผม เย็นสบายจุงเลย นั่งรถไฟสนุกมากเลยฮะ ไม่ทันจะเมื่อย เราก็กลับมาถึงชานชาลา
รอบถัดไปดูคนจะเยอะมากทีเดียว ผมนี่โชคดีจริงๆ ที่ได้นั่งรถไฟ ไว้พ่อกับแม่พาผมมาอีกนะฮะ แดดเริ่มจะแรงแล้ว เราขึ้นรถแอร์เย็นฉ่ำ กันดีกว่า
ขับมาสักพักเดียว พ่อก็เลี้ยวรถเข้า บ้านหอมเทียน แม่เล่าให้ฟังว่า เดิมเป็นบ้านไม้หลังเล็กขายและสอนทำเทียนหอม ตอนนี้มีร้านมากมายเป็นเวิ้ง รวมถึงค่าเข้าคนละ 50 บาท
แต่ดีมาก ที่สามารถเอาตั๋วไปแลกเทียนหอมได้
ร้านค้าหลายร้านแต่งร้านน่าเข้า มีทั้งที่ขายของที่ระลึก เครื่องหอม ร้านขายยา ร้านสปา ร้านขายขนม ที่ยื่นมาให้ชิมมากมาย ผมก็เลยได้ชิมไปด้วย อิอิ แม่เอาแป้งจี่ แล้วก็ทองม้วนสด แล้วก็น้ำด้วยนะฮะ
แหมมาที่นี่ ทั้งมุมถ่ายรูปเยอะแยะ ขนมก็มากมาย
อุ้ย ผมเจอเพื่อนฮะ พ่อๆ จะเอาๆ น้องชิวาว่า ตัวเล็กน่ารักมากเลย อ้าว … เฮ้ย มาพุ่งกัดหูพี่ทำไมเนี่ย …. พ่อครับๆ ไอ้ชิ มันตกมัน เกรียนมากเลย ไปกันดีกว่าฮะ
เฮ้อ เซ็งจะมีใครรัก หมาบูลตัวน้อยบ้างไหมฮะ
ด้านในมีร้านแลกเทียนหอม แม่หายเข้าไปในนั้นพร้อมถุงเทียนในมือ แม่ฮะ แม่กลัวไฟดับเหรอฮะ ซื้อมาซะเยอะขนาดนั้น
เดินตรงขึ้นไปด้านบน มีท่าเทียน เอาไว้ฝึกทำเทียน รูปแกะ แองกี้เบิร์ด น่าตาน่าเชียว เสียดาย ที่หอมแต่กินไม่ได้
ถัดไปเป็นร้านกาแฟ กิ๊บเก๋ มากเลยฮะ แต่งร้านสไตล์ของเก่า นอกจากที่นี่จะมีหมาเกรียนแล้ว ยังมีเด็กเกรียน ที่เอาไอติมมาล่อผม ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ กินแท่งแรกเสร็จ ไอ้เด็กเกรียน ยังไปซื้อมาอีกแท่ง มายั่วยวนใหม่บอกว่า อร่อย อย่างนั้นอย่างนี้
เฮ้อ เพลียจริง โลกนี้เป็นอะไรไปกันหมดแล้วเนี่ย
อากาศร้อนมาก แต่พี่ๆ ที่นี่ใจดีทุกคน เห็นผมร้อนมาก ก็เอาน้ำรดน้ำต้นไม้มาราดตัวผมให้ โห พี่ช่างรู้ใจ ผมนี่มีความสุขขึ้นเยอะเลย
แม่บอกว่า เอ้า ไปนั่งเรียกแขกหน้าร้านหน่อย จ่ายค่าแจ้งเป็นน้ำเย็น หรือไอติมสักแท่งก็น่าจะดีนะฮะ
ก่อนกลับตรงทางออก มีพี่นั่งเล่นดนตรีให้ฟัง ผมนี่ไม่อยากจะกลับบ้านเลย ไม่เป็นไร ใกล้บ้านแค่นี้เอง เอาไว้เรามาเที่ยวกันใหม่เนอะ
ไว้เจอกันทริปหน้าฮะ กับว้อดก้า พาเที่ยว พ่อๆ ครั้งหน้าขอแบบไม่ร้อนลิ้นห้อยนะคร้าบ
บ้ายบาย
# I am traveller
14 เมษา 58