ภูเขาหิมะมังกรหยก

นอกจากเราสามารถเที่ยวในตัวเมืองลี่เจียงแล้ว ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นอีกสถานที่ ยอดนิยม ที่เราต้องไปพิชิตให้จงได้ จากที่หาข้อมูลมา ปัญหาคือ ทัวร์มีเฉพาะทัวร์ท้องถิ่น ที่พูดภาษาจีน แค่นั้นไม่พอ ที่เค้ามารีวิวในพันทิป เค้าถูกโกง…

lijiang (29)

แล้วถามเราว่า กลัวมั้ย กลัวสิ งกอ่ะ ไม่อยากเสียเงินฟรี เราเลยใช้วิทยายุทธ คุยกับที่พักให้จอง One Day Trip นี้ให้เรา

หมายเหตุ การจองตั๋วเครื่องบินในประเทศจีน จองตั๋วรถไฟตู้นอน และการเตรียมตัวอื่น อ่านได้ที่โพสนี้นะจ้ะ

สนุกสนานมาก สนุกยังไงอ่ะเหรอ เพราะเราไปกับกลุ่มคนจีน ไม่มีคนไทยเลย และอย่างที่รู้คนจีนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ทางที่พัก เลยวางแผนว่า เค้าจะให้โทรศัพท์เราถือไว้ 1 เครื่อง เวลาทางหัวหน้าทัวร์นัดเวลาเรา เค้าจะโทรบอกที่พัก ที่พักก็จะโทรบอกเวลาเราว่า นัดเจอกันตรงไหน เวลาไหน 555 โคตรซับซ้อนอ่ะ

lijiang (27)

แต่เอาวะ มาถึงลี่เจียง จะไม่ไปตามหา ดาบมังกรหยก ที่ภูเขาหิมะมังกรหยก ก็เหมือนมาไม่ถึง ลุยยยย

เริ่มต้นตอนเช้าดีมาก รถทัวร์ที่นัดมาก่อนเวลา (เชรดดดด) ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเล้ย ต้องวิ่งหูลู่ไปขึ้นรถ ที่พักก็ดี เอานมกล่องและส้มคนละลูกแพ็คให้เรา เหมือนอย่างกับพาเด็กประถมทัศนศึกษา เริ่มต้นดี๊ดีเนอะ

Lijiang (2)

วิ่งพอมือเย็น เหงื่อไม่ค่อยออก เพราะอากาศที่นี่ 20-25 องศา แค่พอหอบ แฮ่กๆ

รถทัวร์แวะรับนักท่องเที่ยวตามโรงแรมต่างๆ ที่มีการจองทัวร์ไว้ ส่วนใหญ่หน้าตาเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ไม่ค่อยมีอาจุมม่าให้ปวดหมองมากนัก จากนั้นไม่นาน หัวหน้าทัวร์ ซึ่งแน่นอนพูดภาษาจีน แหงะ อธิบายว่าเค้าจะแจกไรให้บ้าง เริ่มต้นด้วยแจกถุงขาวๆ ในนั้นมีนมกล่อง ช็อคโกแลต ขนมปังและไส้กรอกผสมสี ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันจะช่วยชีวิตหมู่เฮาตอนขึ้นไป

Lijiang (5)

lijiang (32)

เราก็ไม่ได้ทาน เพราะรู้ว่า ทัวร์ ราคา 450 เหรียญ (จำไม่ได้ ขอไปค้นก่อนเดี๋ยวกลับมาเฟริ์ม) เราต้องมีการกรอกฟอร์มมากมาย ว่าเรามาทำอะไร มาจากไหน เพราะจะมีด่านตรวจ แบบขึ้นมาตรวจจริงจังเลยนะ ถ้าไม่ผ่านให้ลง ณ ตรงนั้นเลยจ้า               เราก็แอบเสียวนิดๆอ่ะ

การเดินทางมาที่ภูเขาหิมะมังกรหยก จุดแรกคือ ร้านเสื้อกันหนาวและถังออกซิเจน ที่นี่เอง ที่เราพบ Amazing ห้องน้ำจีน

Lijiang (22)

ถึงแม้จะได้ยินสรรพคุณมานักต่อนักแล้ว ก็พยายามหลีกเลี่ยง ไม่ ไม่ ไม่ ฉันจะไม่ฉี่และอึ ถ้าไม่ถึงที่สุด หลังจากซัดนมไปกล่องก็ไม่รอด ร้านเสื้อกันหนาวนี้ดูสะอาดดีเลยจัดค่ะ ห้องน้ำแบบว่าเป็นร่อง เหมือนร่องน้ำกว้าง (ยืนงงๆ ว่าต้องหันก้นไปทางไหน 555) และแล้วเราก็มีคนสาธิต เป็นภาพ 3 มิติ คือ วัยรุ่นหน้าตาดี แต่ไม่ปิดประตูจ้า (เป็นเรื่องวัฒนธรรมปกติของเค้า) เออ…ผิดเอง ตกใจอ่ะ ไม่คิดว่าจะเจอวิดีโอสาธิต ทีนี้รู้และ ต้องคล่อมช่องและปล่อยโลด น้ำไม่มี เพลียยเป็นที่สุด

Lijiang (63) Lijiang (66)

จากนั้น ไม่กินน้ำแว้วว ภาพมันติดตา 8-O

จุดถัดไปคือ การเปลี่ยนรถทัวร์ค่ะ เหมือนมาถึงจุดที่มีป้าย บอกความสูง ว่าเราหน่ะมาถูกที่แล้ว ความโชคดีของเราในทริปนี้คือ มีสาวเจ้าชาวจีน มีแฟนเป็นฝรั่ง เค้าเลยอาสามาอธิบายเราเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งคล่องมากเหมือนภาษาของตัวเอง แหม…มีแฟนเป็น expat มันดีอย่างนี้นี่เอง

Lijiang (9)

lijiang (20)

หัวหน้าทัวร์สอนการใช้กระบอกออกซิเจนค่ะ ว่าต้องดึงฝาที่ครอบแล้วกดลงไปตรงที่ฉีด ครอบปากครอบตะหมูก แล้วสูดดมโลด เค้าจะแจกให้คนละ 2 กระป๋อง ซึ่งมันจะพอดี๊ พอดี ถ้าเสียสตางค์ซื้อเพิ่มได้ อยากจะซื้ออีกป๋องน่าจะดี

lijiang (25)

การลงจากรถเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วและนับจำนวนคน ว่าแต่ละกรุ๊ปมีกี่คน ตรงกับเอกสารที่แจ้งหรือเปล่า แล้วก็กลับมาขึ้นคันเดิม สถานที่แรกที่มุ่งหน้าไปคือ Blue Moon Lagoon Valley (บลูลากูน วัลเล่ย์) ซึ่งแค่ขับรถขึ้นตามไหล่ทางและเห็นน้ำสีเขียวไล่เฉด สวยมาก

Lijiang (57) Lijiang (59)

lijiang (24)

Booking.com

โอ้ย งามเว่อร์วัง รถจอดให้เราเดินเล่นที่นี่ ครึ่งชั่วโมง มีน้ำตกจำลองที่เหมือนของจริงมาก และมีรถ(คล้ายรถกอล์ฟ) ให้เรานั่งขึ้นไปชั้นอื่นด้วย แต่ด้วยภาษาไม่ได้ และเวลาน้อย เราเลือกเดินถ่ายรูปจุดที่จอดรถ สวยงามจริง

lijiang (23)

lijiang (26)

ชาวจีนเค้าจะมีท่าเด็ด ในการถ่ายรูปอยู่สองท่า 55 อันนี้ลอกเด็กมหาลัยมาเลย คือ ท่า สะบัดกระโปรงแล้วเอามือบังแดดเล็กๆ อีกท่าคือ หันหลัง ยืนเท้าชิด แล้วยกแขนกว้างเป็นรูปตัววี จ้า กะเหรี่ยงไทย จัดไป เอาให้เหมือน หุๆ

Lijiang (25)

lijiang (21)

จากนั้นเราเปลี่ยนรถ ทีนี้สละรถแล้ว เราเอาเฉพาะ ถุงขนมและออกซิเจนกระป๋องไปเพราะต้องขึ้นรถโคช ที่สามารถขึ้นเขาได้ อากาศเริ่มน้อยลงอย่างรู้สึกได้ ไม่น่าล่ะต้องแจกกระป๋องออกซิเจน หัวหน้าทัวร์ย้ำเรื่องความปลอดภัยมากๆ ก่อนขึ้นกระเช้าไปด้านบนว่า ต้องรู้ร่างกายของเรา ขึ้นไปถึงแล้วให้ค่อยๆ เดิน ถ้ารู้สึกเวียนหัวให้หยุด นั่งพัก และสูดดมออกซิเจน ถ้าไม่ไหว ให้นั่งกระเช้ากลับมาข้างล่างทันที

Lijiang (36) Lijiang (31)

lijiang (33)

กระเช้าก็เสียวได้ที่เลย นั่งยาวพอสมควร ต้องข้ามป่าและแม่น้ำ เพื่อให้ไปถึงยอดเขา คิดแล้วเราก็ดั้นต้นเนอะ อยู่พื้นราบสบายๆ ไม่ชอบ ชอบลำบาก

Lijiang (62) Lijiang (67)

นึกว่าด้านบนจะหนาวเพราะสูง เปล่าเลย หนาวเท่ากับข้างล่างนั่นแหละ ที่เห็นภูเขาสีขาวโพลนนี่มาจาก หินเป็นสีขาวมากกว่า ออกซิเจนจำเป็นมากมายด้านบน คิดว่าตัวเองแข็งแรงเปล่าเลย มึนหัวมากมาย สูดดมเข้าไปอย่างกับคนติดกาว หน้าตาก็ฟิน ฟิน เวลาออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมอง เหอๆ

Lijiang (60)

lijiang (30)

ออกซิเจนหมดไป 1 กระป๋องอย่างรวดเร็ว ขึ้นมาได้แค่ 200 เมตรจากจุดที่กระเช้ามาส่ง นั่งพัก และเก็บภาพแบบมึนๆ และคิดว่าอยากจะไปต่อ เผื่อได้มุมที่สวยกว่านี้ แล้วก็ไม่ผิดหวัง หมวยขึ้นไปถึง เคบินที่ขายอาหาร ถึงแม้จะไม่ใช่จุดสูงสุด แต่คิดว่า ได้ภาพที่ถูกใจแล้ว ไปต่อดูแล้วร่างกายไม่น่าจะไหว

Lijiang (43) Lijiang (42) Lijiang (41)

lijiang (31)

สุดท้ายเลยมานั่งมึนๆ จกข้าวโพดย่างเพิ่มออกซิเจน 555 ไม่เกี่ยว

Lijiang (40) Lijiang (45) Lijiang (49) Lijiang (70)

จากนั้นลงกระเช้าและมานั่งรอ สมองขาดออกซิเจนทำให้ง่วงและอยากหลับมากมาย เลยนั่งงีบเนื่องจากยังไม่ถึงเวลานัดหมาย

lijiang (28)

ทริปนี้ยังไม่จบ เพราะขากลับ ทัวร์เค้ามีเลี้ยงสุกี้ และมีนักร้อง (อารมณ์เหมือนแมนจู) มาร้องเพลง ถึงแม้สุกี้ให้คนละหม้อ กุ้ง หมึก ปลา หมูจัดเต็ม แต่ดั๊น กินไม่ลง พี่อีกคนยิ่งหนัก มีอาเจียนด้วย คืนนั้นป่วยไป 1 บาดเจ็บ 1 ยังลัลลาได้อีก 1

Lijiang (52) Lijiang (53) Lijiang (54)

เรียกว่า เสมอ  ซมซานกลับมานอนพักที่พักได้นี่ถือว่าเก่งแล้ว ดังนั้นใครที่ตัดสินใจอยากจะขึ้น ภูเขาหิมะมังกรหยก อยากให้เช็คสภาพร่างกายให้ดีก่อน ต้องแข็งแรงระดับนึง และห้ามฝืนเด็ดขาด เพราะมีโอกาสอันตราย เป็นอะไรมา กว่าจะลงจากเขาใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว

แต่สำหรับคนที่แข็งแรง ปานช้างสาร แนะนำว่าไปเหอะ สวยโฮก

Lijiang (55) Lijiang (58) Lijiang (69) Lijiang (68)

ทริปหน้าของลี่เจียง จะพาไปเที่ยว ถนนคนเดิน และสถานที่ท่องเที่ยวแบบเต็มๆ พร้อมแนะนำที่พัก ที่เจ้าของ หล่อมว๊ากกกก ป้าใจสั่น (แต่ไม่ยอมให้ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน เสียใจ ให้ email มาก็ดั๊น ทำหายซะนี่ TwT)

ลี่เจียงเมืองมรดกโลกอีกเมือง ตามไปเที่ยวนำกันเน้อ

#Iamtraveller

 

Leave a Reply

>
Facebook