พระธาตุอินทร์แขวน

อยากจะเล่าทริปเที่ยวพม่า มานานแล้ว เพราะเป็นทริปแรกๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ       I am traveller และ website iluvtravelling.com  จนทำให้เกิดการเดินทางอีกมากมายอีกหลายทริปต่อมา

ลานสักการะด้านหน้าไจท์ถิโยห์
ลานสักการะด้านหน้าไจท์ถิโยห์

สารภาพตามตรงว่า เลือกไปเที่ยวพม่า เพราะตั๋วโปรฯ (เหตุผลเดิม 555) ซึ่งมีแต่คนเตือนว่่า อย่าไปเลย น่ากลัว อาหารจะกินได้เหรอ จะมีอะไรให้เที่ยว บลาๆ มากมาย แต่หาทำให้เราเปลี่ยนใจไหม คำตอบก็รู้กันอยู่

การตัดสินใจเดินทางไปโดยไม่ง้อทัวร์  และ “เที่ยวพม่า ตกเครื่องเรื่องเล็ก” จึงเกิดขึ้น>_<

เตรียมตัว 2 อาทิตย์ถ้วน และแล้ววันเดินทางก็มาถึง
เตรียมตัว 2 อาทิตย์ถ้วน และแล้ววันเดินทางก็มาถึง

เราวางแผนจะไปเที่ยว 3 เมือง เลย คือ ย่างกุ้ง พุกาม และมัณฑะเลย์ โดยจองตั๋วเครื่องบินระหว่างเมืองไปกลับ และแน่นอนช่วงนั้น เป็นสายการบินหางแดง เพิ่งเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ – ย่างกุ้งเป็นครั้งแรก ราคาตํ่วเลยค่อนข้างถูกมาก สิริรวม 5 วัน ตอนนั้นใช้เงินเดินทาง 27,000 บาท

ชาวบ้านผู้มีศรัทธา ขึ้นมาสักการะเยอะมาก บ้างก็ค้างโดยอาศัยลานด้านบนนอน
ชาวบ้านผู้มีศรัทธา ขึ้นมาสักการะเยอะมาก บ้างก็ค้างโดยอาศัยลานด้านบนนอน

แผนการเดินทางแรกคือเราไปไจท์ถิโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน

เอาจริงๆ ใกล้วันเดินทางเราจองที่พักคืนแรกไม่ได้เลย สุดท้ายอาศัยเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน คือแอบปิดห้องประชุมออฟฟิศนั่งหารือกันเรื่องนี้เลยนะ ไม่ได้คุยเรื่องงาน คุยเรื่องเที่ยว 555 ขำตัวเอง สรุปคืนแรก ขออาศัยเพื่อนของเพื่อนนอน ถามว่ารู้จักมาก่อนไหม ไม่เลยอ่ะ รู้จักกันวันนั้นแหละ เริ่มต้นก็ทำตัวเหมือนวิทยายุทธ์แก่กล้า

อ้อ ทริปนี้ลืมบอกไปว่า ไปกัน ผู้หญิง  3 คน ไม่ได้คิดกลัวอะไรเล้ยยย…ไปนอนห้องผู้ชาย เหอๆ ประมาณว่าป้าแก่แล้ว คงไม่เป็นอันตรายกับใครหรอก

วิวไจท์ถิโยยามค่ำคืน บอกเลยว่าสวยงาม เหลืองอร่าม ขลังมากอ่ะ โชคดีหมวยได้สัมผัสไจท์ถิโยสองรอบ เลยได้เก็บภาพทั้ง เช้า บ่ายแล้วก็ค่ำ ><
วิวไจท์ถิโยยามค่ำคืน บอกเลยว่าสวยงาม เหลืองอร่าม ขลังมากอ่ะ โชคดีหมวยได้สัมผัสไจท์ถิโยสองรอบ เลยได้เก็บภาพทั้ง เช้า บ่ายแล้วก็ค่ำ ><

หาข้อมูลจากเพื่อนที่เพิ่งไปมา บอกว่าเราต้องเช่ารถไปเที่ยวพระธาตุฯ  ซึ่งไกลจากตัวเมืองย่างกุ้ง 300 กว่ากิโล หรือใช้เวลาเดินทางร่วม 3ชั่วโมง จะนั่งรถโดยสารโป้งฉึ่ง ก็ดูจะไม่ทันเพราะวางแผนเที่ยววันละเมือง (ตอนนั้น คิดไปได้ไง เที่ยววันละเมือง เพลีย)

สุดท้ายเพื่อนของเพื่อน(อีกแล้ว)บอกว่าให้น้องชายชาวพม่าพาเที่ยวไหม เราก็ตกลง โชคดีจริงวุ้ย มีไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยว สบายแล้วเรา นัดแนะกันอย่างดี พร้อมได้เบอร์ติดต่อมาเป็นตัวประกัน ประมาณว่าถ้าไปถึงก็พยายามหาทางติดต่อน้องเขา เขาจะมารอรับที่สนามบิน หารู้ไม่ว่า … เป็นจุดเริ่มต้นของ … ความฮาของทริปนี้

เป็นภาพที่ชอบที่สุดในชุดนี้เลย >_<
เป็นภาพที่ชอบที่สุดในชุดนี้เลย >_<

หลังจากลงเครื่อง ซึ่งเครื่อง delay ไปครึ่งชั่วโมงแบบใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เอิ่มว่าน้องเขาจะยังรออยู่หรือเปล่า แต่น้องเค้าน่าจะรู้ล่ะมั้ง สายการบินต้องแจ้งไรบ้างล่ะ คิดเข้าข้างตัวเองตล๊อดดด  รออยู่พัก ให้เพื่อนอีก 2 คน เดินไปออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศอีกอาคาร เรามีหน้าที่เผ้ากระเป๋า และหาน้องเพื่อนที่จะมารับ รอไปอีกครึ่งชั่วโมง เฮ้ย ไม่เห็นมีใครถือป้ายชื่อไรเราเลยอ่า   อะไร ยังไง ล่ะเนี่ยยยยยย

ตัดสินใจเดินไปขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่สนามบินช่วยโทรหาน้องให้หน่อย แกใจดีมว๊ากก เอามือถือ โทรไปเบอร์ที่เรามี ปรากฏว่าแม่ของน้องเค้ารับสายและบอกว่าน้องออกไปข้างนอกนานแล้ว เราก็ใจชื้นขึ้น อ้อคงมารับเรา คุณเจ้าหน้าที่ใจดี อาสาช่วยเขียนชื่อน้องเป็นภาษาพม่า ให้อิชั้น ถือเดินรอบสนามบิน ตอนนั้นรู้สึกเป็นเหมือนพริตตี้สนามมวย ถือกระดาษโพย รอบเวที อายก็อาย แต่เอาวะ เพื่อการเดินทางของเรา

เดินวนรอบเวที เอ้ยสนามบินย่างกุ้ง เป็น 10 รอบ เฮ้ย ไม่มีใครทักตรูเลยว๊าาา   สุดท้ายรอไป เกือบสองชั่วโมงน้องเค้าไม่มา แงๆ (รู้ทีหลังว่า เขาลืมไม่ได้มารับด้วยซ้ำ) เลยตัดสินใจหาเช่ารถ Taxi หน้าสนามบิน ราคาไม่น่าเกิน 200 US เพราะเพื่อนที่เคยมาก่อนหน้า เค้าว่างั้น สุดท้ายเลือกผู้ชายหน้าตาใจดี ให้ราคาที่ 250 US เอาวะ ทำไงได้ เดี๋ยวขึ้นเขาไม่ทันอีก …. อ๊ะๆ อย่าคิดว่าชีวิตจะง่ายนะจ้ะ การผจญภัยยังไม่จบ

หน้าบ้านพี่โชเฟอร์ เที่ยวแบบอินไซด์เป็นที่สุดฮะ
หน้าบ้านพี่โชเฟอร์ เที่ยวแบบอินไซด์เป็นที่สุดฮะ

แทนที่คุณพี่โชเฟอร์จะพาเดอะแกงค์ตรงแน่วไปพระธาตุอินทร์แขวนเลย พี่แกบอกว่าขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่บ้านก่อนได้ไหม แล้วจะรับเมียขึ้นรถไปด้วยเพราะต้องขับรถไกลจะได้ไปเป็นเพื่อน เอ๊ะ…ยังไง แหม่งๆ แต่มองโลกสวยงามไง ทริปแรก คงไม่มีอะไรมั้ง เอาเลยพี่ตามสะดวก (ทั้งมวลคุยเป็นภาษาอังกฤษ คนพม่าภาษาอังกฤษเยี่ยมยุทธมากนะฮะ ใครมาไม่ต้องกลัวเลย)

ช็อคโกแลตมาแบบ จัดเต็ม
ช็อคโกแลตมาแบบ จัดเต็ม

พอเลี้ยวรถเข้าซอย ระแวกนั้นเป็นบ้านไม้ในซอยแห่งหนึ่งในย่างกุ้ง ด้วยใจระทึก เป็นไงเป็นกัน คือ อยู่ในรถจะทำไรได้ พี่เค้าเชื้อเชิญให้ลงไปรอในบ้านเหรอ ได้ จัดไป เป็นคนไทย เข้าเชิญก็ต้องเข้าบ้านสิ จริงไม ระหว่างที่รอพี่แกแสดงละครขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อ คุณภรรยาหยิบน้ำเย็น โค้ก ช็อคโกแลตแบรนด์ดังมากมีมาเรียงราย อ่ะนะ มันใช่เหรอ… พี่อย่ามาหลอกหนูเลย อ่าน pantip มาแล้ว ถ้าหยิบกินก็ต้องจ่ายสตางค์นะจ้ะ อ๊ะๆๆ ไม่ได้แอ้มเงินข้าพเจ้าหรอก ฉลาดอย่างเรา มีหรือจะพลาด ยิ้มปริ่ม หึๆ

เพื่อนร่วมทริป ขอแชะหน้าบ้านพี่โชเฟอร์เป็นที่ระทึกกันหน่อย
เพื่อนร่วมทริป ขอแชะหน้าบ้านพี่โชเฟอร์เป็นที่ระทึกกันหน่อย

นั่งรอไปสักพัก พี่แกเห็นเราไม่แตะขนมที่จัดเตรียมไว้ให้เลย เลยเปลี่ยนแผนบอกว่า แลกเงินกับแกไหม เนี่ยให้  750 จ๊าดเลยน๊า ด้วยความที่ธนาคารปิด แลกเงินจ๊าดจากไทยได้นิดเดียว เลยเลือกแลกเพิ่มไปอีก 100 ดอลล่าห์ เจรจาธุรกรรมกันเสร็จ บอกกลับไปว่า ออกเดินทางกันเหอะ พี่คะเราเสียเวลามามากแล้ว Acting ที่สุด ออกไปยืนรอร้อนๆที่รถเพื่อความสมจริง

สุดท้ายพี่แก ก็เออ…ตัดใจ เอาแค่ค่ารถอย่างเดียวก็ได้

แหมๆ อ้าวพี่ แล้วที่เล่นละครไว้ว่าจะพาเมียไปด้วยล่ะ เมียพี่อ่ะไปไหน พี่แกเนียนไปว่า อ้อ เมียปวดหัวพอดี ไม่ไปด้วยและ แหมะๆๆๆ ตำแหน่งตัวประกอบบ้านหนูว่างเพียบ พี่โคตรเหมาะอ่ะ

เพื่อความปลอดภัย ก็ต้องเติมลมยาง เอ้ย... เอามาทั้งยางกันเลยฮะ ปลอดภัยสุดๆ
เพื่อความปลอดภัย ก็ต้องเติมลมยาง เอ้ย… เอามาทั้งยางกันเลยฮะ ปลอดภัยสุดๆ

การเดินทางไปพระธาตุอินทร์แขวนแบบเร่งรีบจึงได้เกิดขึ้น เวลานั้นก็จะ 11 โมงแล้ว รอบนี้ตรงดิ่งตั้งใจขึ้นไปไหว้พระธาตุอย่างเดียวเลย ไม่ได้วางแผนจะค้างคืน ไหว้เสร็จ ให้รถไปส่งที่พัก เรียกว่าไม่มีเวลาโอ้เอ้มาแต่น้อย เหมือนวิ่งผลัด 4×100 กันล่ะทีนี้ นึกสภาพและเวลาที่เหลือ เหมือนเราขับไปกลับโคราช แต่ต้องเดินขึ้นเขาที่โคราชอีก 3 ชั่วโมงอย่างต่ำ รวมไปกลับและขึ้นเขา 9 ชั่วโมงเต็ม แบบไม่กินข้าวด้วย การเดินทาง ของ BackPacker มืออาชีพเริ่มแล้วสินะ  หมวยมันใช่หราาาา

ระหว่างทาง มีสถานทีท่องเที่ยว คือ เมืองหงสาวดี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ พระธาตุมุเตา (เจดีย์ชเวมอดอร์) และ พระราชวังของบุเรงนอง แปะไว้ก่อน เพราะเวลามีจำกัด เลยต้องตัดออกไป สัญญากับตัวเองว่า ถ้ามีโอกาสมาอีกต้องไม่พลาด (อีกสองปีถัดมาก็ได้ไปในที่สุด)

ระหว่างทางจะมีการขอเงินทำบุญเป็นระยะ ไม่ต้องตกใจ นั่งไปสักพักจะชิน
ระหว่างทางจะมีการขอเงินทำบุญเป็นระยะ ไม่ต้องตกใจ นั่งไปสักพักจะชิน

ต้องทำใจมากหน่อยตรงที่ รถยนต์ที่นี่ขับพวงมาลัยซ้าย แต่จราจรขับทางขวา หมายความว่า เวลาจะแซงรถคันหน้า ต้องเอาด้านซ้ายของรถจิ้มนำทางไปก่อน เพื่อให้คนขับเห็นว่าเลนส์ที่สวนมามีรถหรือเปล่า

แล้วอิชั้นดันเสร่อเลือกนั่งที่ด้านซ้ายจ้า ไม่ได้หลับนอนเอาแรงกะเขาเลย นั่งเสียวไปตลอดทาง ส่วนเพื่อนสองคนนั่งหลับอย่่างมีความสุข …ยังไม่พอ รถยนต์เก่ามากถึงมากที่สุด แบบว่า เหมือนรถยนต์เมื่อใช้งานมา 10ปี หมดสภาพจากเมืองไทยแล้วมาขายต่อที่พม่าอย่างไรอย่างนั้น อย่าพูดถึงแอร์ มีแต่แอร์ธรรมชาติลมโกรกจัดเต็ม

ยังไม่พออีก ถนนเป็นลูกรังจ้า ดังนั้นหน้าของเราจะสปาด้วยฝุ่นแดงเต็มหน้า ตัวและรูขุมขน โดยเฉพาะในจมูก อือหือ โบกกันมาทั้งถนนแหละ ดังนั้นหากใครแพ้ฝุ่นอันนี้แนะนำให้เช่ารถตู้หรูหราไฮโซจะเหมาะสมกว่า

รถขนหมู ประสบการ์ณที่เล่า เห็นภาพ ยังไม่สาแก่ใจเท่าลองเอง มันส์วุ้ยย
รถขนหมู ประสบการ์ณที่เล่า เห็นภาพ ยังไม่สาแก่ใจเท่าลองเอง มันส์วุ้ยย

ถึงแม้จะนั่งรถนานร่วม 3 ชั่วโมง ก็ไม่ทำให้ชินกับการที่คนขับจิ้มซ้าย พร้อมบีบแตรปิ๊ป เป็นสัญญาณก่อนแซงเสมอ เพราะเวลามีรถคือ เราโดนก่อนเลยไง

เวลา 3 ชั่วโมงเป๊ะๆ ข้าวไม่ได้ตกถึงท้อง ในที่สุดก็ถึง คินปูแคมป์ กินฝุ่นมาเต็มกระเพาะ ก็ถึงตีนเขา ตอนที่ไปยังห้ามนักท่องเที่ยวนักรถขนหมู ต้องเดินขึ้นเขาไป หรือเลือกนั่งเสลี่ยงเท่านั้น !!!

เสลี่ยง เบาๆ ชิลล์ๆ อะไรจะมีความสุขกับอาชีพกันขนาดนั้น
เสลี่ยง เบาๆ ชิลล์ๆ อะไรจะมีความสุขกับอาชีพกันขนาดนั้น

เรานัดแนะคนขับ ว่าไม่เกิน 3ชั่วโมงจะลงมา ตัดสินใจทิ้งกระเป๋าวัดใจกับพี่แก เดินตัวเปล่าพร้อมของมีค่ากับเป้ใบเล็กอีกคนละใบ เราวางแผนไปถึงโรงแรมไม่เกิน 3 ทุ่ม ประมาณว่านั่งรถมา 3 ชั่วโมงเพื่อ เดินขึ้นเขา 2 ชั่วโมง ไปชะโงกทัวร์แล้วต้องรีบลงมาเลย เพราะต้องนั่งรถกลับเข้าเมืองอี๊ก เอิ่ม…ใครวางแผนการเที่ยวเนี่ย โหดเกิ๊น

และเราตัดสินใจฝากกระเป๋าไว้กับคนขับเลย แถมจ่ายเงินค่ารถไป 100 US แล้วด้วย เพราะคนขับบอกว่าต้องเอาไปเติมน้ำมัน และซื้อยางสำรอง (ซึ่งพี่แกซื้อจริงนะ) เผื่อยางแตก การเดินทางของฉันแลดูปลอดภัย มว๊าก

มาถึงขนาดนี้แล้ว ด้วยใจมุ่งมั่นและศรัทธา หวังว่าลงมากระเป๋าและคนขับจะไม่หายไป เลยตัดสินใจฝากกระเป๋า และมุ่งหน้าไปที่ตีนเขาทันที

สมาชิกยังคงสดใสร่าเริง และตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่ เลี้ยวทีเอียงไปกองอีกฝั่ง สนุกจุงเบย
สมาชิกยังคงสดใสร่าเริง และตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่ เลี้ยวทีเอียงไปกองอีกฝั่ง สนุกจุงเบย

เดินไปนิดเดียว ก็ต้องนั่งรถขนหมู เสียค่าบริการตอนนั้นคนละ 1500 จ๊าด สภาพรถคล้ายกับที่ขึ้นเขาคิชกูฎ ความปลอดภัยติดลบ แต่เพื่อนร่วมชะตากรรมเยอะ ที่พม่า เราสามารถแตะตัวพระได้ พระนั่งด้านหน้าติดเราระยะกระชั้น คนข้างๆ เป็นชาวพม่า จับจีวรพระยึดไว้สำหรับทรงตัวระหว่างนั่งรถขึ้นเขา หึๆ นี่สินะ เรียกว่า พระเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคน โดยเฉพาะคนนั่งติดพระ

ตอนที่ไปอย่างที่บอก รถไม่ได้พาไปถึงด้านบนเลย (รอบที่สองไม่ต้องเดินและ เขาพาขึ้นไปถึงเขาเลย) ทีนี้ พอลงจากรถ ก็มีคนมาเสนอนั้งเสลี่ยง บอกว่า คนละ 16,000 จ๊าด คำนวณทุกสิ่งเสร็จสรรพ ไม่เอาอ่ะ แพง งกแท้น้อ

ไม้เท้ากายสิทธิ์ ถือแล้วจะมีแรง เท่าช้างสาร เดินขึ้นเขาได้สบายยย
ไม้เท้ากายสิทธิ์ ถือแล้วจะมีแรง เท่าช้างสาร เดินขึ้นเขาได้สบายยย

ตัดสินใจซื้อไม้เท้าคนละอัน ในราคา 100 จ๊าด แล้วเดินขึ้นเขาเองจ้า โชคดีมากเราเจอคนพม่าที่มาทำงานที่เมืองไทย บอกทางเราเป็นทางขึ้นเขาด้านซ้าย ไม่ใช่ทางหลักที่เป็นทางลาดชันสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ขึ้นโดยใช้เสลี่ยง ทางนั้นจะเดินยากมาก และถูกบั่นทอนกำลังใจด้วย คนแบกเสลี่ยง จะมาถามเราตลอดมานั่งไหม เหนื่อยนะ นั่งเหอะ

เดินเรื่อยๆ มาเรียงๆ เดินไปชมนกชมไม้ไป อ้าว เพื่อนหายยยย
เดินเรื่อยๆ มาเรียงๆ เดินไปชมนกชมไม้ไป อ้าว เพื่อนหายยยย

ทางขึ้นเขาด้านซ้าย เป็นทางของชาวบ้านชาวพม่า ที่อาศัยตามไหล่เขา เป็นหมู่บ้าน โดยทำเป็นขั้นบันไดธรรมชาติ และ ทางลาด ขึ้นเป็นระยะๆ เดินไปชมนกชมไม้ไป ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยมาก แต่ตอนนั้นฟิต  เหนื่อยแป๊ปเดียวก็เดินต่อได้ ระยะทางแค่ 1 กิโล แต่ถึงอย่างนั้น ก็เดินร่วม 2 ชั่วโมงในที่สุดก็ถึงที่หมาย หมวยทำได้ วู้ฮู้

พอแจกลูกอมที่มีอันน้อยนิด เด็กๆ ก็มารวมตัวกันเพียบ
พอแจกลูกอมที่มีอันน้อยนิด เด็กๆ ก็มารวมตัวกันเพียบ

ระหว่างทางเจอน้องๆ สนใจเพียบ อาจเป็นเพราะคนต่างชาติส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ทางนี้ แนะนำว่าใครอยากออกกำลังกาย เรียนเชิญเดินทางนี้ได้เลยนะจ้ะ และหากพกลูกอมไปแจกเด็กๆ ระหว่างทางด้วย คุณก็จะได้เพื่อนเดินทางตัวน้อย เดินเป็นเพื่อนด้วย

บ้านสร้างอย่างง่าย ไม้ไผ่และผ้าใบ minimalist ของจริง
บ้านสร้างอย่างง่าย ไม้ไผ่และผ้าใบ minimalist ของจริง
วิถีชีวิตของชาวบ้านแถวนั้น ถ้าไม่ได้เลือกเดินขึ้นคงไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้
วิถีชีวิตของชาวบ้านแถวนั้น ถ้าไม่ได้เลือกเดินขึ้นคงไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้

หมวยเดินขึ้นไปจนถึงบริเวณจุดจ่ายค่าเข้า สำหรับชาวต่างชาติจ่าย 6 US อยากให้ทุกคนจ่ายเพื่อไว้บำรุงสถานที่ พอไปถึงเพิ่งตระหนักว่า ไม่ได้พกเงินเลยสักกะบาท เงินจะซื้อน้ำยังไม่มี ต้องรอเพื่อนร่วมทริปอีกสองคน ที่กำลังตะเกียกตะกายเดินขึ้นเขามาอย่างๆ ช้า ไม่รู้จะสงสารใครดี เหอๆ สรุปเพื่อนตามมาในอีก ครึ่งชั่วโมงถัดไป สิริรวมเวลา 2.30 ชั่วโมง ในการเดินขึ้นเขา

นั่งรอเพื่อน ตรงจุดเก็บค่าธรรมเนียม หิวน้ำแต่ไม่มีสตางค์ซื้อ
นั่งรอเพื่อน ตรงจุดเก็บค่าธรรมเนียม หิวน้ำแต่ไม่มีสตางค์ซื้อ

พอดื่มน้ำพักจนพอหายใจทัน จ่ายสตางค์ค่าเข้าแล้ว เราก็ไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวนด้านใน

พระธาตุอินทร์แขวน โดยความเชื่อของคนพม่าบอกว่า หากใครได้มาไหว้พระธาตุฯ  3 รอบถือว่ามีบุญสูงสุด คือเวลา รุ่งเช้า  ช่วงสายและเย็น ซึ่งหากเราไม่ได้เร่งรีบ แนะนำให้นอนค้างคืนที่นี่ เพราะตอนเช้า คนพม่าจะมาสวดมนต์ทำวัตรเช้ารอบไจท์ถิโย พร้อมใส่บาตรพระธาตุอีกด้วย

ไจท์ถิโย ตั้งอยู่บนริมหน้าผา อย่างหมิ่นเหม่
ไจท์ถิโย ตั้งอยู่บนริมหน้าผา อย่างหมิ่นเหม่

พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจท์ถิโย ตั้งอยู่ในเมืองไจท์ถิโย รัฐมอญ สัญลักษณ์คือ มีก้อนหินสีทองตั้งหมิ่นๆอยู่ริมหน้าผา แต่ไม่กลิ้งตกลงมาหลายร้อยปีแล้ว และเป็นพระธาตุประจำปีจอ อีกทั้งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 ของประเทศพม่า ที่ไม่ควรพลาด

โดยที่พักด้านบน ต้องบอกเลยว่า ราคาค่อนข้างสูง ตกคืนละ 50 US โดยเป็นห้องพัดลมธรรมดา  ซึ่งมีที่พักใน Agoda ให้จองแค่ไม่กี่ที่ แต่จริงๆ แล้ว ด้านในพระธาตุมีที่พัก ซึ่งเขียนทุกสิ่งเป็นภาษาพม่า ใครอยากลองเสี่ยงก็ไปหาที่พักเอาดาบหน้า เผื่อว่าจะได้ราคามิตรภาพกว่านี้

ของสักการะ มีเฉพาะตอนเช้า สำหรับทำวัตรตอนเช้า
ของสักการะ มีเฉพาะตอนเช้า สำหรับทำวัตรตอนเช้า

ของที่นำมาไหว้ ไม่ต้องเตรียมไป เพราะด้านบนจะมีจำหน่ายและจัดเป็นเซ็ตอย่างครบถ้วนแล้ว ซึ่งพิธีกรรมคือจะมีคนมารับไปไหว้ ถือวนๆเป็นวงกลมตรงหน้า แล้ว วาง ให้เราจุดธูป นมัสการและวางทิ้งไว้

แอบแปลกใจนิดนึง ตอนไปรอบสองว่า คนส่วนใหญ่จะไม่ใส่บาตรพระ แต่เลือกที่จะนำของไปไหว้พระธาตุมากกว่า

Kyaiktiyo (30)

ในบริเวณตัวหิน ที่มีคนบอกว่า ถ้าเป็นรุ่งเช้า บางมุมจะเห็นแสงลอดระหว่างหินได้ด้วย และอนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่เข้าไปสัมผัสก้อนหินศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ ผู้หญิงนั่งสวดมนต์รอด้านนอกอย่างเดียว

ทริปแรกที่ไป ทำได้แค่เพียงสวดมนต์สั้นๆหนึ่งบท จุดธูปเทียนสักการะ และเก็บภาพ อย่างรวดเร็วและรีบเดินลงอย่างเร่งร้อนเพื่อไปให้ทันรถขนหมูรอบสุดท้าย ซึ่งถ้าไม่ทันรอบนี้ คือต้องค้างบนนี้ โกยตีนหมูเลยจ้า เสี่ยงสุดๆ

เก็บภาพอย่างรวดเร็ว ก่อนรีบลงจากเขา
เก็บภาพอย่างรวดเร็ว ก่อนรีบลงจากเขา

เวลาเดินลงเราตัดสินใจเดินทางลาด เป็นคนละทางกับตอนแรก เดินลงเร็วกว่า แถมรอบนี้มีชาวพม่าตัวน้อยเดินตามอีก พอทำเวลาได้ เลยแวะซื้อแตงโมกินรองท้อง และแบ่งให้น้องๆด้วย ยังจะชิลล์อีกนะหมวย

ขากลับเดินลงทางลาดชัน ทำเวลาได้ดี เลยให้รางวัลตัวเองด้วยแตงโมคนละชิ้นจ้า
ขากลับเดินลงทางลาดชัน ทำเวลาได้ดี เลยให้รางวัลตัวเองด้วยแตงโมคนละชิ้นจ้า

ทำเวลาแค่ 40 นาที โอ้ว … ฟิตโฮก มาทันรถคันสุดท้ายกำลังจะออกพอดี โชคดีจริงจริ๊ง นั่งรถขนหมูมาถึง เหลือบไปเห็นรถแท็กซี่ ใจชื้นเลย แบบว่า ยังรอเราอยู่พร้อมกระเป๋าเดินทางครบถ้วน

นั่งรถขากลับรอบนี้ไม่นั่งหน้าคู่พี่คนขับและ ขอไปนั่งหลังเบียดสามพร้อมเพื่อนๆ อุ่นใจกว่าเยอะ ถึงที่พักเกือบ 4 ทุ่ม ส่งมอบเงินค่ารถส่วนที่เหลือพร้อม tip พี่แกที่อุตส่าห์พาเรามาส่งอย่างปลอดภัย พี่คะอย่าลืมแบ่งเงินไปซื้อพาราให้เมียพี่แก้ปวดหัวด้วยเน้อ

วิวด้านบนก่อนพระอาทิตย์ตก
วิวด้านบนก่อนพระอาทิตย์ตก
อาหารมื้อค่ำสุดคลาสิคของวัน
อาหารมื้อค่ำสุดคลาสิคของวัน

วันแรกที่พม่า ก็จบลงอย่าง แฮปปี้เอ็นดิ้ง ด้วยกาลฉะนี้ ขึ้นห้องขอน้ำร้อนเพื่อนของเพื่อน เพื่อกินมาม่าอีก 555 (มาม่าจากเมืองไทยอร่อยที่ซู๊ด) พรุ่งนี้บอกโรงแรมให้เรียกรถ Taxi คันใหม่ ให้พี่คนเดิมเค้าดูแลเมียเค้า เราเรียกคันใหม่ดีกว่า พร้อมออกเดินทางไปสนามบินเพื่อไปเมืองพุกาม

ลาด้วยภาพวิวมุมสูงของไจท์ถิโย
ลาด้วยภาพวิวมุมสูงของไจท์ถิโย

ทะเลเจดีย์ เมืองที่เกือบตกเครื่อง เพราะรถไม่มารับ เมืองที่เต็มไปด้วยกำลังศรัทธาของผู้คน เมืองที่ต้องนั่งรถม้าชมเมือง และทำให้ต้องเกือบควบรถม้าไปสนามบิน

จะเป็นอย่างไรจะไปรอดไหม ติดตามต่อได้ที่ตอน “พุกาม”

# I am traveller

Leave a Reply

>
Facebook