น้ำพุร้อนหินดาด

ที่มาของทริปนี้ค่ะ แม่เกริ่นมาคำเดียวว่า “แม่เลี้ยงหลานเหนื่อยจัง พาแม่ไปเที่ยวหน่อย” เสด็จแม่ดำหริมาเช่นนี้ ลูกอ้วนกลมกตัญญูอย่างเรามีหรือจะนิ่งเฉย

รวมไพร่พล ของทริปนี้ พี่ชายผู้ทำงานเจ็ดวัน เป็นนิจ น้องชายและครอบครัวลิงกังผู้ยังไม่ผ่านโปร รวมถึงคุณสามีที่เล่นตัว ประมาณฉันนอนอยู่บ้านมีความสุขที่สุด และคุณป๊าที่ไม่ยอมเดิน คือ ไม่เดินจริงๆนะ ไปไหนมาไหน ปั่นจักรยานสามล้อท่าเดียว

สิริรวมทีมจัดทริปใกล้กรุงเทพได้ 2 วัน 1คืน เปลืองน้ำลายไปหลายปี๊ปอยู่

เงื่อนไขสุดพิเศษ  เน้น “กิน นอน แช่น้ำแร่ ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งแช่น้ำแร่Only” ยังไม่พอจ้า ทริปนี้มีเด็กใกล้แม่น้ำไม่ได้อีก แถมด้วยหน้าฝน ทะเลต้องตัดทิ้งเพราะเด็กๆจะแพ้และคัน ตกลงกันได้ที่ (จริงๆคิดเองตกลงเอง) กาญนะจ้ะบุรีแล้วกัน

มาสรุปนาทีสุดท้ายว่าจะพักใกล้บ่อน้ำพุร้อนหินดาด อยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เลือกให้ที่พักมีน้ำแร่ให้คุณนายแช่สมใจในที่พักเลย ประมาณว่าตื่นมาปุ๊ป ปวดเมื่อยกระโดดลงน้ำแร่ได้ทันท่วงที

ส่วนเด็กๆ เราก็มีสระว่ายน้ำติดกับห้องพักซึ่งเป็นวิลล่า พูดให้หรูหราไฮโซไปงั้นแหละ มันคือบ้านเป็นหลังๆ ลงตัวที่นาคาคีรี รีสอร์ท แอนด์ สปา ใกล้น้ำพุร้อนเพียง 1.2กิโลถ้วน

เราออกเดินทางจากกรุงเทพ7.30 นึกว่ารถจะติดกว่านี้แต่ยักจะติดแฮะ แวะทานข้าวเช้าที่ราชบุรี หาข้อมูลได้ว่ามีร้านข้าวหมูแดงเก่าแก่ร่วม 40 ปี เวลาดีเปิด8โมง ชื่อร้าน” จั๊วข้าวหมูแดง” ร้านอยู่ในซอยมิตรเสถียร วนหอนาฬิกาตรงมาจนสุดเจอถนนเลียบริมน้ำ ทะลุซอยเลยจ้าหน้าปากซอยเป็นโรพยาบาลเล็กๆ  ร้านเข้าไปในซอยประมาณ4ช่วงตึก

เราไปถึงสัก8.30คนนั่งกันเต็มร้าน มียืนคอยซื้อกลับบ้านอีก เฮ้ยไม่ธรรมดา ฉันต้องได้รับคำแซ่ซ้องสรรเสริญเป็นแน่แท้ ที่หาของเด็ดดวงมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง

จัดเลยธรรมดา คนละจาน จัมโบ้อีกโต๊ะละจาน กลัวไม่พอไง ข้าวหมูแดงที่นี่เสริฟพร้อมพริกขี้หนูสับละเอียด แปลกตาดี แต่พอชิมแล้วเก็ตเลยฮะ (ความคิดเห็นส่วนตัว) น้ำราดหวานอ่ะ ง่อววว หมูแข็งไปนิด พอใส่พริกคลุก เออก็พอกินนนัวๆไปได้ จบมื้อเช้าไปแบบ มึนๆหวานๆเผ็ดๆ

10.30น. เรามุ่งหน้ามาที่รีสอร์ท พักระหว่างทางเล็กน้อย ใช้เวลาเดินทาง อีก 2ชั่วโมงกว่า ระหว่างทางแวะตลาดเจียไต๋ซื้อเมลอนหวานเทพสักหน่อย เพราะวันอาทิตย์ปิด ขอหอบหิ้วตั้งแต่วันเสาร์เลยแล้วกัน แม่จัดไป6ลูก ว่าแต่คุณแม่คะซื้อไปถมที่หรือซื้อไปกิน เอิ่ม ตามใจนางแล้วกัน

ตรงดิ่งมาที่รีสอร์ท พักอีกสองแว้ปก็ขอเติมพลังที่ครัวแปดริ้ว เค้าว่าอร่อย (คิดในใจว่ามันใช่เค้าคนเดียวกับที่บอกเรื่องข้าวหมูแดงเปล่าวะ) หึๆ แวะกินตลอดยังไม่ถึงน้ำพุร้อนสักที แต่หลอกให้เด็กๆใส่ชุดว่ายน้ำมากินข้าวก่อนเพราะตอนนั้นก็บ่ายโมงแล้ว กองทัพเราเดินด้วยพุงที่กางเสมอ

แต่ ว้าว ว้าว ว้าว อาหารร้านนี้เด็ดจริงไรจริง ถ่ายรูปอาหารแทบไม่ทัน  สังเกตุได้จากรูปอาหารเว้าแหว่งตลอด. โดยรวมอาหารค่อนข้างเผ็ด คุณนายแม่และสะใภ้ภูธรโปรดปรานยิ่งนัก ส่วนป๊าและอะฮั้น ส้มตำน้ำล้างครกยังเผ็ด กินไปซับเหงื่อและน้ำตาไป ราคาอาหารก็ดีไม่แรง อาหารแปดอย่างข้าวสองโถ ราคา 1,300บาทนิดๆ ให้3ผ่านคร๊า

ได้ฤกษ์ ขับรถย้อนกลับมาทางเดียวกับที่พัก20 กิโล น้าพุร้อนหินดาดอยู่ทางซ้ายมือ หากมาจากตัวเมืองกาญจนบุรี ตรงดิ่งมาทองอำเภอ ทองผาภูิม ขับสักเกือบสองชั่วโมง แต่คุ้มค่ามาก อากาศกำลังเย็นสบาย คนไม่เยอะมากนัก ค่าบำรุงสถานที่ ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10บาท  น้ำพุร้อนที่นี่ไฮไลท์คือ ด้านขวามือเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายมากมาย. มีสามบ่อ. เลือกเอาตามความอึด มีบ่อเป็นสัดส่วนแยกสำหรับพระสงฆ์ด้วย ที่สำคัญน้ำจะไหลเวียนออกไปเสมอ เรียกสะอาดไปมาตรฐานมอก.กันเลยทีเดียว

ยังเด็ดไม่พอด้านขวาคือน้ำตกจ้า น้าใสไหลเย็น มาจากน้ำตกผาดาด จริงแท้ ไม่โกหก แช่น้ำร้อนปั้บกลิ้นตัวมาจุ่มน้ำตก อะไรมันจะเป็นสถานที่ที่ลงตัวปานนั้น ในอดีตมีแต่คนไทยที่รู้จัก เดี๋ยวนี้เจอชาวต่างชาติทั้งเกาหลี จีนยุโรปมาที่นี่กันด้วยจ้า ดังนั้นอย่าให้เสียดุล 555ไม่เกี่ยวนะ มาที่นี่กันได้ ของเขาดีจริงไ ใครที่มาเดี่ยวไม่มีคู่ ไม่ต้องกลัวของหาย เค้ามีที่รับฝากของสำหรับคนโสด. 55 จริงๆฝากได้ทุกคนอ่ะแหละ

ส่วนห้องน้ำก็สะอาดอะล้าแอล่ม อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้อย่างปลอดภัย แถมฟรีด้วยนะจ้ะ 20 บาท คุ้มโฮก

ขึ้นๆลง จุ่มบ่อโน้น ว่ายบ่อนี้ แช่นานๆก็อย่าลืมจิบน้ำป้องกันการช็อคจากการเสียเหไงื่อด้วยหล่ะ เล่นพอไขมันสะดุ้ง หดๆยืดๆ ด้วยความร้อนและความเย็น เราก็เตรียมกลับที่พัก สบายตัว โปร่งโล่งดีจริงๆ

คุณนายแม่บอก อยากจะแช่นานๆเอาให้คุ้ม ขึ้นเถอะหลายชั่วโมงแล้ว เดี๋ยวไปต้มน้ำที่บ้านอาบแก้ขัดแล้วกัน

ไม่รู้แม่ตอบว่าไร ไม่ทันฟัง 555 ทริปเที่ยวกิน กินและแช่น้ำแร่วันแรกก็จบเพียงเท่านี้อ่ะจ้า ไว้พาเที่ยวใหม่นะจ้ะ

#I am traveller