ความเดิม 2 ตอนที่แล้ว จากตัวเมือง ทานข้าวออแกนิคร้านมีนา พานั่งรถข้ามมาอ.จอมทอง เพื่อขึ้นดอยอินทนนท์ มาเดินออกกำลังที่กิ่วแม่ปาน และเที่ยวสูงสุดของประเทศไทย ดอยอินทนนท์
วันนี้ได้ฤกษ์เข้าที่พักและ ขาเริ่มหมดแรง รอบนี้เลือกนอนโฮมสเตย์ “บ้านแม่กลางหลวง” มีดียังไงตามไปชมค่ะ
บ้านแม่กลางหลวง เป็นหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงที่ใช้พื้นที่ของอุทยานฯ เป็นที่ทำกิน มีนาข้าว ไร่สตอเบอร์รี่เล็กๆ และบ่อปลา จนชาวบ้านเริ่มคิดอยากทำโฮมสเตย์ จึงไปดูงานที่บ้าน “แม่กำปอง” เป็นต้นแบบขยายมาทำที่นี่
หมวยเลือกนอน “คีรีมายา” ซึ่งมีพี่สมศักดิ์ ที่ทำไร่กาแฟอาราปริก้า เป็นผู้ริเริ่ม ที่พักเป็นบ้านพักเป็นหลัง สร้างล้อมรอบนาข้าว โดยหมวยได้พักบ้านริมธาร
ชื่อก็บอกอยู่แล้ว บ้านอยู่ริมน้ำตก อีกแล้ว คือ ทั้งทริปนอนฟังเสียงน้ำตลอด อากาศที่เย็นก็ยิ่งเย็นเข้าไปอีก ที่นี่ หากแนะนำ นอกจากหน้าหนาวแล้ว ควรมาปลายฝน จะได้เห็นวิวนาขั้นบันได เขียวไปทั่วทุ่ง สวยงามไปอีกแบบ
ราคาห้องพัก นอนได้ 3 คน มี 1 เตียงใหญ่ และ 1 เตียงเล็ก ราคา 1,200 บาทต่อคืน ไม่มีอาหารเช้า
ด้านในมีร้านกาแฟ อุ่มเอิบ เป็นร้านกาแฟเล็กๆ แต่รสชาติดีงาม เข้มข้นเหมือนร้านกาแฟใหญ่ๆ ในกรุงเทพ แต่ให้บรรยากาศบ้านนา เพราะมีสะพานไม้่ไผ่ที่สามารถ ซื้ออาหารปลา ให้ทานได้อีกด้วย
เห็นเป็นร้านเล็ก แถมอยู่ในอุทยานแห่งชาติ แต่มีเค้กด้วยนะเออ หุๆ เราผู้พิชิตเค้กมาแล้วทุกยอดเขาจะพลาดได้ไง ใช่มะ
นั่งชมวิว ดื่มด่ำกาแฟ เล่นกับน้องหมา ให้อาหารปลาเพลินจนเริ่มค่ำ อากาศเย็น รีบไปอาบน้ำ กลัวเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไม่อยู่ เหอๆ พรุ่งนี้เช้ามีของเด็ดที่พลาดไม่ได้
เวลามาต่างจังหวัด สมองจะเปิด จิตใจแจ่มใส ร่างกายแอคทีฟสุดๆ ถึงแม้ว่าจะใช้งานอย่างหนักหน่วงก็ตาม อย่างนี้แหละ ที่เค้าเรียกว่า ธรรมชาติบำบัด
บรรยากาศตอนเช้าก็สดชื่นมากมาย เห็นต้นพญาเสือโคร่งแซมสีชมพูอยู่ลิบๆ
เช้านี้เราจะมาทานกาแฟฟรี กันค่ะ 555 บ้านพี่สมศักดิ์ มีไร่กาแฟ ปลูกล้อมรอบบ้าน เป็นกาแฟสายพันธ์อาราปริก้า ที่เพาะผสมขึ้นมา จนได้รสชาติที่กลมกล่อม
เดินขึ้นจากห้องพักไปจนถึงถนนใหญ่ ร้านอยู่ทางซ้ายมือ หาไม่ยากค่ะ เพราะกลิ่นกาแฟดูดเราเข้าไป
เจอหลานพี่สมศักดิ์ นั่งต้มกาแฟด้วยกาน้ำ ง่ายๆ พูดเชื้อเชิญให้เรานั่งอย่างกระตือรือร้น น้ำกำลังเดือด กาแฟพร้อมเสิรฟค่ะ … แหมเขินเล็กน้อยอ่ะ ของฟรี…ก็อยากลองอ่า
กาแฟ เข้มข้น แต่กลมกล่อม ปกติ กาแฟหลายที่ เวลาที่เข้มมากๆ ก็จะขมหรือไม่ก็เปรี้ยว หรือถ้าไม่ขม ก็ค่อนข้างอ่อน แต่กาแฟที่นี่ เข้มข้น และไม่ขม รสชาติดีมากๆ ไม่ลังเลที่จะจัดผงกาแฟที่แพคเป็นซองอลูมิเนียมอย่างดีกลับบ้าน
ไม่พอ พี่ๆ เค้ายังแบ่งสตอเบอร์รี่ออแกนิค แถมแนะนำว่า ต้องซื้อร้านไหนที่ไม่ได้ใช้สารเคมี ลองชิมสตอเบอร์รี่ออแกนิค เฮ้ย..รสชาติต่างจริง อันที่ไม่แดงมาก ก็หวาน กรอบ อร่อย รู้ตัวอีกที กำสตอฯ ไว้เต็มมือ 555 หร่อยอย่างแรง ประทับใจน้ำใจ และความใส่ใจในรายละเอียดของพี่เค้ามาก ไม่แปลกใจเลย ที่มีคนแวะมาเยี่ยมเยียน กาแฟพี่สมศักดิ์ อย่างต่อเนื่อง
ของเค้าดีจริงๆ นอนบ้านแม่กลางหลวง ไม่ควรพลาดนะจ้ะ #คุณค่าที่พุงคู่ควร
เช้านี้มีเวลาอีกนิดหน่อย หากเพื่อนพอมีเวลา มีทางเลือกท่องเที่ยวดังนี้ค่ะ
credit ภาพจาก pantip.com
- เวลาไม่มาก หรือไม่มาหน้าหนาว แวะเที่ยวน้ำตกวชิรธาร ถ่ายรูปกับน้ำตกหลากชั้น น้ำเยอะทั้งปี ใช้เวลาสัก 1 ชั่วโมง ในการเที่ยวชม ก่อนขึ้นเครื่องกลับก็ได้
credit ภาพจาก www.tlcthai.com
- หากบ้าพลังมีเวลาสัก 3 ชั่วโมงขึ้นไป ติดต่อที่พัก ว่าอยากให้พาไป น้ำตกรักจัง หรือ น้ำตกผาดอกเสี้ยว ที่ต้องเดินเข้าไปในป่าเพื่อจะไปชื่นชม เราต้องใช้คนนำทางนะคะ เดินเองไม่ได้เดี๋ยวจะหลง และใช้พลังเยอะเป็นตัวเลือกสำหรับคนบ้าพลัง
- ถ้ามาหน้าหนาว ปลายเดือนธันวา หรือ มกรา และมีเวลาสัก 3-4 ชั่วโมงหมวยเลือกขึ้นไป ศูนย์อนุรักษ์พันธ์กล้วยไม้ และ ขุนวาง (อุโมงค์ หนูนากับนายสิงห์) พื้นที่ค่อนข้างกว้าง เลยใช้เวลาหน่อยในการเก็บภาพ แบบไม่เร่งรีบ
- หรือเหนื่อยและ อยากจะชิลล์ เก็บท้องไว้อย่าเพิ่งทานข้าวเช้าค่ะ ขับรถมุ่งดิ่งไปตัวเมือง แวะร้านสเต๊ค ผักสดๆ ที่ร้านสวนผัก “โอ้กะจู๋” แต่ละจานอลังการดาวล้านดวง รับรองว่าผักปลอดสารและรสชาติอาหารที่อร่อยทำให้ฟินไปอีกอย่าง
หวังว่า การรีวิวทริปจะถูกใจเพื่อนๆ นะคะ
#Iamtraveller
อ่านตอนแรกได้ที่นี่ http://www.iluvtravelling.com/กิ่วแม่ปาน/
ตอนที่สอง http://www.iluvtravelling.com/กิ่วแม่ปาน-แม่กลางหลวง/
