Iluvtravelling

วันเหงาเหงา ที่บางกระเจ้า

เคยเป็นไหมคะ อยากอยู่คนเดียว นั่งคิดอะไรนิ่งๆ ได้ใช้เวลากับตัวเองจริง โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี ไม่ต้องถูกเสียงผู้คนรบกวน     หมวยเป็นหนักถึงขนาดอยากไปเที่ยวคนเดียวเลย แค่ไปเช้า เย็นกลับ ยังไม่หนำใจ อยากไปค้างสักคืน

แต่ด้วยความที่เป็นครั้งแรก ที่ไปคนเดียวเองจริงๆ ครั้นจะไปไกลก็ยังโหวงๆอ่ะนะ เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ บางกระเจ้า

เดินทางก็แสนสะดวก ลงBTS สถานีบางนา ต่อมอไซค์ไปท่าเรือบางนานอก ข้ามเรือ 2 บาท แป๊ปเดียวถึง คิดในใจได้ดังนั้นพรุ่งนี้จัดกระเป๋าไปลุยกันเล้ย ขอเป็นคนโสด เดินเหงา แต่ไม่เศร้าสักวันนะ

วางแผนว่าจะลงสถานีพระโขนงเพื่อจิบกาแฟชิลล์ตามวิถีเด็กฮิปที่โดดงาน เอ้ยไม่ใช่ว่างงานวันนึง ไม่เปิด Google Map ด้วยเอ้า ใช้ปากถามใช้ใจนำทาง โอ้ยดูละครเยอะไปไหมเนี่ย แต่ทำงั้นจริงๆน๊า เห็นมะ บอกแล้วว่าอาหารหนัก

ไปหาหมอไม่หาย ต้องไปเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น ฟันธง

ลงสถานีพระโขนง เนื่องจากภาษาอังกฤษเขียนว่า Naipa Complex เราเลยถามพี่วินว่า พี่คะ ตึกนายปาเดินไปทางไหน พี่วินบอกว่าไม่มีนะน้อง ซอยนี้ไม่มีอะไร เงิบสิ เดินไปสามก้าว พี่เค้ารีบวิ่งมาบอกว่า อ๋อ น้องๆ ในป่าใช่ไหม ถ้าในป่าเดินไปในซอย สุขุมวิท 46 นิดเดียวอยู่ขวามือ

พอไปถึง ตะลึงไปพักนึง ไม่ใช่เพราะความสวยอะไรหรอก คือโครงการกำลังตกแต่งอ่ะจิ มีอยู่ร้านเดียว เป็นร้านที่เล็งไว้ว่าจะมาเลยแหละ นั่นคือ ร้าน Library ไล-บรา-รี่ โล่งสุดๆ เอาเป็นเหงาเลยเหอะ 555 สมใจ ไม่ต้องไปเล่นเก้าอี้ดนตรีเหมือนที่สาขาคลองสาน

ตัดสินใจปักหลักที่นี่หล่ะ เดินอย่างมาดมั่น ด้วยยังไม่กินข้าวเช้า พี่คะมีของคาวให้หนูใส่ท้องบ้างไหมคะ พยาธิเพรียกหาแล้ว คาวสุดของพี่เค้าเป็นบราวนี่ กะขนมปังอะไรสักอย่าง เลยคิดก่อนมาตั้งหลัก

จบที่สั่ง มัจฉะร้อน เห็นเค้าชาเชียวเด็ด เลือกมาเมนูนึง กับวาฟเฟิลสีเขียวอ่อน signature ของร้านเค้าล่ะ

จ่ายตังค์เรียบร้อย กางจานสี จะปักหลักวาดรูปชิลล์ๆ ที่นี่หล่ะ คนขายมองแบบ ประหลาดใจเล็กน้อย ว่าป้านี้ มาทำอะไรเนี่ย แต่บอกเลยว่า i don’t care แอ แอะ แอ แอ๊ะ แอ

มัวแต่เล่น งัดของมาเลยกันดีกว่า มีนายแบบส่วนตัวมาจ้า จัดท่าเสร็จ จะก้มหน้าก้มตาวาด เงียบสงบมากมาย ชอบมาก ไม่อยากให้คนเยอะเลยให้ตายสิ (แล้วร้านเค้าจะรอดไหมเล่า)

จิบมัจฉะไป วาดโครงได้สักพัก หิว เล็มๆ วาฟเฟิลไปลงสีไป ฟิน ท้องร้องมาก ต้องรีบวาดให้เสร็จแล้ว เอ๊ะ ไม่ได้สิ บอกว่าจะชิลล์ วาดไปชั่วโมงกว่าๆ ภาพก็เสร็จจนได้ เย้ เป็นอีกผลงานที่ภูมิใจนำเสนอสุดๆ

ไปต่อกันตามแผนที่วางไว้โลด ดีใจมากนั่ง BTS ต่อแมงกาไซค์ ตรงท่าเรือ มีร้านก๋วยเตี๋ยว คนมากินกันเยอะเลย แปลว่าต้องเด็ดสินะ ถึงแม้พุงจะแน่นด้วยวาฟเฟิล เราก็สู้ไม่ถอย

ระหว่างรอเตี๋ยวก็เดินถ่ายรูปในร้านเล็กน้อยไม่กล้าเดินเยอะ ร้านเล็ก เกรงใจกลัวเกะกะคนอื่น พนักงานมากินกันเยอะเชียว พอชิมก๋วยเตี๋ยวเท่านั้นแหละ อ้อ…อืม…อร่อยง่า ไม่น่าล่ะคนเยอะเลย ชอบบรรยากาศร้านไม้ๆ ระหว่างนัดวาดไปกินไป คนเสริฟก็แซวคนขายเป็นระยะ เรียกเสียงหัวเราะให้คนมากินได้อมยิ้มกันได้ เป็นร้านที่ได้กลิ่นบางกระเจ้าเลยอ่ะ เว่อร์เนอะ

เรือนไม้เล็กๆ แม่ครัว 1 พนักงานเสริฟด้วยคิดตังค์ด้วย ทำน้ำด้วย 2 ปรุงของอร่อยๆ จากครัวเล็กๆ ให้คนตั้งหลายคนได้กิน มันเจ๋งดีเนอะ อิ่มท้องแล้วได้เวลาผจญภัยกันต่อแว้ว

นั่งเรือข้ามฟาก เรือกว้างขวาง ปลอดภัยดีเอารถมอไซค์ข้ามฝั่งไปด้วยได้นะ พอถึงฝั่งก็เจอร้านให้เช่าจักรยานเรียงราย ส่วนใหญ่คนมาเที่ยวบางกระเจ้า เลือกที่จะขี่จักรยานเที่ยว เพราะที่เที่ยวกระจายหลายจุด เดินไม่ไหว

แต่ไม่ใช่เรา เราเลือกเดิน!!!! ไม่ใช่เพราะแข็งแรง หรืออยากแตกต่าง บั่บว่า ขี่จักรยานไม่แข็งไง ถถถถถถ

คิดในแง่ดีจะได้ประหยัด (ไม่ใช่แระ ที่พักมีแถมรถจักรยานให้คันนึง ฟรี) งั้น จะได้เดินถ่ายรูปทั่วๆ ไง ว่าไปนั่น อ่ะ

พลเดิน หนึ่งนาย เดินค่ะ ถามทางไป “พบรัก ณ บางน้ำผึ้ง” ที่นอนของเราคืนนี้ เดินไม่ไกลมาก ตามทางไปเรื่อยๆ  ระหว่างทางมีร้านอาหารที่ปลูกไม้ดอกไว้เยอะเลย ถ่ายรูปสวยทุกรูปแดดกำลังเริ่มอ่อนแรง เพราะเลยเที่ยงมาพอสมควร

ถึงที่หมายแล้ว “พบรัก ณ บางน้ำผึ้ง” เอาเป๋าไปเก็บ กะว่า นอนชิลล์สักพัก แล้วค่อยเดินเล่นๆ หาที่วาดรูปต่อ ห้องพักเป็นเรือนไม้สีเขียวอ่อน ติดกับแม่น้ำ ขนาดกระทัดรัด ค่อนข้างใหญ่สำหรับการมาพักคนเดียว ล้างหน้าล้างตา เปิดเพลง กะว่าจะงีบแป๊ปเดียว ตื่นมาอีกที เย็น อ๊าคคคค วันหยุดของฉาน

ตื่นปุ๊ป เดินไปร้านข้างๆ ที่ตั้งใจมาเพราะร้านนี้เลย Bangkok Tree House กะว่ามากินขนม และดื่มด่ำกับบรรยากาศให้หนำใจก่อนจะมืด อยากจะพักที่นี่อยู่ แต่ยากเกินทำใจ ราคาแรงไปนิดส์ ถ้านอนสองคนหารกันอาจตัดใจได้ แต่นี่คนเดียว ไว้ก่อนแล้วกันนะ จุ๊บๆ

พนักงานใจดีมาก เห็นเราชอบถ่ายรูป บอกว่า เดินเข้าไปถ่ายรูปด้านในได้ วันนี้ไม่มีแขก หึๆ ถึงแม้จะตื่นช้า ก็ยังมีเรื่องดีๆ วุ้ย

ร้านบางกอกทรีเฮ้าส์ เลือกใช้วัสดุในการตกแต่ง แค่ไม้ เหล็ก และต้นไม้เขียวๆ ออกมาดูดีชมัด อยากจะทิ้งตัวนอนที่นี่เสียจริง ติดที่เงินในกระเป๋าเนี่ยแหละ

ด้านในร่มรื่นและเงียบสงบ มีต้นไม้และเก้าอี้แทรกตามมุมร่มเงาให้นั่งชิลล์ได้ ด้านบนของห้องพักมีเก้าอี้ให้นั่งชมวิว ม่านสีขาวโปร่งๆ วิวแม่น้ำ ลมเย็นๆปะทะหน้า แงๆ อยากขึ้นไป

ล้วงกระเป๋าแล้ว เคๆ ตัดใจเดินไปสั่งอาหารกินข้าว กินลมชมวิว จนกว่าร้านจะปิดแล้วกัน

หมวยชอบโต๊ะที่นี่มาก เพราะกรุกระจก แล้วพอเราเลือกนั่งนอกอาคาร ทำให้มันสะท้อนท้องฟ้าและก้อนเมฆจากด้านบนลงมา โอ้ยความรู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวบนท้องฟ้าเลยอ่ะ ดีใจที่เลือกไม่นั่งตากแอร์ด้านใน

มัวแต่ดื่มด่ำ เกือบจะห้าโมงแล้ว เลยถามพนักงาน พี่คะหนูขอนั่งต่ออีกหน่อยได้ไหม หนูอยากนั่งวาดรูปชมวิว พี่เค้าก็ใจดีให้นั่ง ถึงแม้ว่าปกติร้านจะปิดห้าโมงก็ตาม ใจดีที่สุดอ่ะ

เลยได้นั่งวาดรูปสมใจ จกขนมที่สั่งไว้ก่อนหน้าไปด้วย ฟิน-_____-

สักพักฝนตกหนัก เลยย้ายเข้ามานั่งด้านใน เอ้ย ด้านในก็วิวดีนะเนี่ย ไม่น่าคนชอบนั่งมุมนี้จัง จัดเป็นโต๊ะเหมือนเป็นห้องกระจกสี่ด้านยื่นออกไปจากตัวอาคาร เก๋ดี โชคดีจังที่ติดฝนที่นี่

ฝนเริ่มซาเม็ดแล้ว ฟ้าก็มืดพอดี ได้เวลาไปฝังตัวกับที่นอนนุ่มๆ นอนฟังเสียงน้ำ เสียงเรือ เปิดเพลงเบาๆ กล่อมตัวเองแล้ว วันแรกของการเที่ยวคนเดียว ก็ไม่เหงาเท่าไหร่น๊า รู้สึกดีถึงขนาดยิ้มคนเดียวหลายครั้งเลยแหละ

ท่าจะติดใจแล้วสิเรา พรุ่งนี้ตื่นไปตะเวณตลาดน้ำบางน้ำผึ้งกัน

ฝันดีนะหมวย

#Iamtraveller

#เที่ยวคนเดียวจุกดีเพราะกินเหมาทุกร้าน

#Facebook : Iamtraveller

#www.iluvtravelling.com

Exit mobile version