เจดีย์ชเวดากอง
เช้าตรู่วันนี้ หมวยและเดอะแกงค์รีบมาที่สนามบินก่อนเวลาหลายชั่วโมง ด้วยไม่คุ้นชินสถานที่ และกลัวเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นตลอดทริป ถึงแม้จะรอดวิกฤติมาได้ แต่ก็ไม่อยากจะประมาท

เรากลับมาขึ้นเครื่องบินจากมัณฑะเลย์เพื่อไปลงที่ย่างกุ้ง มีเวลา 3 ชั่วโมงกว่า โดยวางแผนเดินทางไปชมเจดีย์ชเวดากอง 1 ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า ที่ถ้ามาพม่า หากมีโอกาสแวะย่างกุ้งแล้วไม่ได้ไปสักการะ ก็เหมือนมาไม่ถึง
เรามาถึงสนามบินแต่เช้าตรู่ เช้าขนาดที่ว่าไม่มีใครที่สนามบินเลย พนักงานเพิ่งเริ่มแปรงฟัน อาบน้ำเอง เหอๆ ว่างๆก็เดินเล่นถ่ายรูปเครื่องช่างกระเป๋า ของที่นี่ เก๋ดี รอจนพนักงานเดินหัวเปียก ประมาณว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แล้ว พร้อมที่จะให้เรายื่นตั๋วรถทัวร์แล้ว
พนักงานทำหน้าปะแล่ม เหมือนมีอะไรผิดพลาด แล้วก็บอกเราว่า เอ่อ สายการบินเลื่อนออกไปจากเช้าเป็นบ่ายนะจ้ะ เห็นด้านหลังตั๋วไหม เป็นตัวอักษรสีแดง อารมณ์เหมือนหมายเหตุเขียนว่า การเดินทางอาจเลื่อนได้ ต้องมีการโทรเช็คกับสายการบินก่อนนะจ้ะๆ

เอาแล้วไง เฮ้ย เดจาวู มันคืออะไร แล้วไงดีจะให้นั่งเหงาอยู่สนามบิน เช็คเอ้าท์จากโรงแรมแล้วด้วย แถมอดไปเที่ยวเจดีย์ชเวดากอง อุตส่าห์เก็บไฮไลท์ไว้หลังสุด เหมือนเก็บลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวไว้กินทีหลัง แล้วนี่อะไร อ๊าคคคค
งานเข้าตั้งแต่จะตกเครื่องที่พุกาม ไม่วายมาเจอที่มัณฑะเลย์อี๊ก
พยายามไปเจรจาบอกพนักงานให้เห็นใจเราว่า เราอ่ะ ตั้งใจเดินทางมาเที่ยวพม่าและ เนี่ยอยากไปสักการะ เจดียชเวดากองมากๆ มีเวลาแค่ 3 ชั่วโมงก็อยากจะไป ถ้าเลื่อนไฟลท์เป็นบ่าย ก็เหมือนแค่นั่งเครื่องจากมัณฑะเลย์กับไปที่สนามบิน และต้องบินกลับกรุงเทพเลย ช่วยเราหน่อยได้ไหม plzzz กลยุทธ์ ทุกสิ่งอัน สายตาเว้าวอน เสียงสั่นเครือ งัดมาใช้หมด
พนักงานหายไปสักพัก เดินไปเดินมาคุยกับคนโน้น คนนี้ที

แล้วกลับมาพร้อมบอกเราว่า…. ทำได้อย่างดีที่สุดคือ ต้องรอสายการบินข้างๆปิดเคาน์เตอร์ก่อน ถ้าเหลือที่จะช่วยซื้อที่ให้เรานั่งกลับไปที่ย่างกุ้ง เพียงแต่อาจจะช้ากว่ากำหนดการเดิมนะ โอ้ย … แค่นี้ก็ดีใจที่สุดแล้ว เพราะสังเกตุว่า ผู้โดยสารต่างชาติคนอื่น ก็นั่งรอไฟลท์ที่เลื่อน เหมือนรับสภาพกันไปทั้งหมด มีเรานี่แหละที่พนักงานพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่
รอไปอีกครึ่งชั่วโมง นานเหมือนสิบปี ใจเต้น ตุ้มๆ ต่อมๆ แอบภาวนาเล็กๆ ว่าขอให้ที่นั่งของสายการบินอื่นว่างเถอะ …. แล้วสวรรค์ก็มีตา… หรือบุญนำพา

>>> สุดท้ายเราได้ไปย่างกุ้งล่าช้าไปแค่ครึ่งชั่วโมง โดยความช่วยเหลือของพี่เค้า ด้วยการซื้อที่นั่งของสายการบิน 2 สายการบิน คือ สายการบินแรกได้สองที่นั่ง อีกที่นั่งเป็นของอีกสายการบินนึง <<< มันมากกว่าคำว่า ดีใจ โชคดี ซึ้งใจ …
ที่สำคัญ พี่เค้าไม่คิดสตางค์สักกะบาทเดียว ประทับใจมากถึงมากที่สุด ไม่คิดว่าคนพม่าจะช่วยเราขนาดนี้ เพราะเห็นฝรั่งคนอื่นที่เพิ่งรู้เรื่องสายการบินเหมือนเรา ต้องนั่งรอขึ้นเครื่องช่วงบ่ายอย่างเดียว ไม่ได้เปลี่ยนไฟลท์ให้อย่างเรา


ยังไม่พอ ถึงย่างกุ้งทั้งที่ ก็ต้องแวะนี่เลย ขอพรเทพทันใจที่วัดโบดาทาวน์ เทพผู้ปกปักษ์รักษาเมือง เค้าว่าศักดิ์สิทธิ์นักแล ต้องมา เตรียมตัวมาอย่างดี (เหรอได้ข่าวว่าแอบดูคนอื่นเค้าทำ แล้วทำตามเค้า)เค้าว่าต้องเอาแบงค์ม้วนๆเป็นกรวย สองใบ วางไปที่อุ้งมือเทพทันใจ อธิษฐานแล้วหยิบเก็บเข้ากระเป๋าหนึ่งใบ แล้วก็เอาหน้าผากไปแตะที่นิ้วชี้ของท่าน แล้วพรนั้นจะสมปรารถนา รออะไรล่ะจ้ะ จัดไป (รอบสองพาแม่ไป นางบอกของ่ายๆ รางวัลที่ 1 เอิ่มแม่จ้ะ เอาซะแบบ ไม่เผื่อใครเลย) อ้อ ลืมบอกไปว่า จ้างรถแท็กซี่ที่สนามบินเหมาไปกลับ บอกสถานที่ท่องเที่ยวชัดเจน ราคา 22,000 จ๊าด เราเห็นว่ากระเป๋าใบใหญ่แถมเวลามีน้อย เลยข้ามเรื่องประหยัดเงินไป ประหยัดเวลาแทนแล้วกันเนอะ


ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า รีบออกเดินทางมาที่จุดหมายหลัก ในที่สุดก็ได้มาแล้ว เจดีย์ชเวดากอง สวยงามสมกับที่ดั้นด้นมาจริง เหลืองทองอร่ามจนแสบตา ทางขึ้นมีหลายทาง ทั้งที่เดินผ่านโถงใหญ่ หรือทางที่มีลิฟท์ขึ้นไปด้านบนได้เลย ด้านในมีผู้คนที่ศรัทธามากมายทั้งที่มาสักการะองค์พระธาตุ กลุ่มชาวต่างชาติ รวมไปถึง ผู้ศรัทธามาทำความสะอาดลาน เพราะเชื่อได้บุญมากนัก


มหาเจดีย์ชเวดากอง มีขนาดใหญ่ที่สุดในเจดีย์ทั้งหมดของพม่า สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว โดยกษัตริย์องค์ต่างๆ ได้ถือเป็นพระราชกรณียกิจที่จะก่อสร้างเจดีย์จนสูงใหญ่ขึ้นมาเรื่อย และที่สุดยอดไปกว่านั้น เจดีย์ชเวดากองตกแต่งด้วยทองคำแผ่นหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยเฉพาะบนยอดฉัตร เป็นมรกตและอัญมณีล้ำค่า ซึ่งถือว่างดงามมาก



โดยรอบของเจดีย์มีพระประจำเดือนเกิด และนักษัตร ให้สักการะ โดยความเชื่อว่า ให้สวดมนต์ บูชาดอกไม้และตักน้ำให้ครบจำนวนอายุรดราดไปที่พระพุทธรูป (รีบไปตอนยังไม่แก่มากนะ ไม่งั้นรดน้ำกันเมื่อยเลยทีเดียว) เดินวนรอบเจดีย์หนึ่งรอบ จากนั้นมาเคาะระฆัง อธิษฐานขอพร รับบุญกลับบ้าน เนื่องจากคนค่อนข้างเยอะ เราเลยกระจายกำลังกันหานักษัตรประจำเดือนเกิด แล้วนัดเจอกันที่ประตูทางออก (นัดกันดีๆเน้อ เพราะประตูหน้าตาเหมือนกันไปหมด เรียกเป็นทิศๆไปแล้วกัน ^^)


ที่นี่เปิดให้เข้าไปสักการะตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง สามทุ่ม สมัยนี้ทันสมัยเข้าไปอีกมี wifi เร็วปรู๊ดปร๊าดให้นั่งเล่น อัพรูป ความสวยงามและอลังการของเจดีย์ชเวดากองกันด้วยนะจ้ะ


ในที่สุดทริปนี้ก็สามารถไปได้ครบที่เมืองอย่างที่ตั้งใจไว้ ขอบคุณมิตรภาพและความใจดี น่ารักของเมืองพม่า ที่ทำให้มีความสุขและประสบการณ์ดีๆกับการเดินทางต่อไป



มิงกะลาบา และจินซูติน บาเด
ขอบคุณจากใจ I am traveller เกิดขึ้นได้จากทริป พม่า
จำไว้ว่า “เที่ยวพม่า ตกเครื่องเรื่องเล็ก” เจอกันทริปหน้านะจ้ะ
# I am traveller